บทความเกี่ยวกับแม่น้ำและการใช้กระบวยในการตักน้ำ ตติยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย มหาวรรค ตอน 2 หน้า 123
หน้าที่ 123 / 183

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับการใช้งานของกระบวยในการตักน้ำ และความหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธรณรงค์, มกุฏฐิติ, และ ปฏิญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่น้ำได้รับการจัดการและการปรับเปลี่ยนในเวลาต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการทำงานร่วมกันของน้ำและการจำแนกระดับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ รวมถึงแนวคิดในบทความเหล่านี้ในการทำงานร่วมกันสำคัญในการคงรักษางาน ผลลัพธ์จะดีกว่าเมื่อถูกจัดการอย่างถูกต้อง ทั้งหมดสะท้อนถึงความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่อาจแปลความหมายได้หลากหลาย ในแง่อุดมคติของความเป็นอยู่ ณ สถานที่หนึ่ง

หัวข้อประเด็น

-การใช้งานกระบวย
-ความหมายของน้ำ
-การเรียนรู้เกี่ยวกับอรรถคงพระวินัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ตอแดงสินปาสักท่า อรรถคงพระวินัย มหาาวรร ตอน ๒ - หน้าที่ 349 แม่น้ำลงบนหลังเติ่ม ย่อมค้างอยู่ ไม่ช้านออก. บทว่า ธรณรงค์ ได้แก่ กระบวยตักน้ำอ้อม. บทว่า ทุกกดกาลลิ ได้แก่ กระบวยนั้นเอง พร้อมทั้งด้าน. บทว่า รธนโลมผี ได้แก่ หัวสำหรับอ้อม. บทว่า มกุฏฐิติ ได้แก่ ขาดคลอง. หลายมายว่า น จ อุจฉนแน เดา ปกมิดี มีความว่า หยด น้ำย่อมยังไหลไม่ขาด พอจิญญา ว่ากินไม่ควรไปในอื่นอื่นนั้น. บทว่า ปฏิญาณ คือ จิวรเป็นของกระจัง เพราะอ้อมกันไป, อธิบายว่า น้ำย่อมขันกันไป. สองบทว่า อุกกเต โอศกดต มีความว่า เพื่อแจ้งในน้ำ. ก็แล เมื่อ น้ำย่อมออกแล้วจึงพึงนำกันนั่งแล้วพิงบีบวิต. บทว่า อนุกลาวานิ ความว่า กิญจูพัคคลี ย่อมจิรรัง เดี่ยวหรือสองครั้งใช้วิมีสิ่งเสี้งช่าง. [ว่าด้วยอิ้วรด] บทว่า อุกจิพทธิ คือ มีการทานเนื่องกันเป็นสีเหลือง. บทว่า ปาลิพุทธิ คือ พูนค้นนายาวทั้งด้านยาวและด้านกว้าง. บทว่า มริยาทพุทธิ คือ พูนค้นนั่นในระหว่าง ๆ ด้วยค้นนา สั้น ๆ. บทว่า สิญญาญกุพุทธิ คือ พูนค้นนาเชื่อมกันดังทาง ๔ แรงง ตามที่ซึ่งค้นนากับค้นนาผ่านตัดกันไป, อธิบายว่า มีสัญฐานดังทาง ๔ แรงง.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More