ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ตอนสนับปาสำหรับ ภรรภาวะวินิน หวาวรรค ตอน 2 - หน้าที่ 360
ภิษฐ์ทั้งหลาย เมื่อแบ่งจีรวกัน พึงทำความสงเคราะห์แก่รายบ้าง ?"
ดังนี้ จึงได้ไป
บทว่า สารีลิส ติส คือ จักถืออาหารหรือ ? จริงอยู่ ในเรื่องนี้ ส่วนอ้อมไม่ถึงแก่พระปณิธานศากยบูรณ์ แม้โดยแท้, กระนั้น ภิษฐ์เหล่านั้น ได้กล่าวว่า "ท่านจักรับหรือ?" ดังนี้ คิดวาดทำในใจว่า "พระเจดนี้ เป็นชาวกรุง เป็นธรรมกถิ มีปกคล่า."
ก็วินิจฉัยในข้า โย สารีลิส ยอปฏิ ทุกุกูลสุด นี้ พึงทราบดังนี้:-
เป็นถามูสติจริงอยู่, ถึงกระนั้น จิวรก็ถือเอาแล้ว ก็ฉะนั้น ควรคือให้ในที่ซึ่งตนเอง; แม้หากว่า จิวรเหล่านั้นเป็นของเสียหายไปดี ถือว่าให้, ย่อมเป็นสนิทใช่ก็บันหนั้นแล้ว. ครั้นนี้ก็ภิษฐ์เหล่านั้น กล่าวว่า "ท่านจงให้." เมื่อเธอไม่ให้, จึงให้ปรับตามราคาของ ในเมื่อทองสุร
บทว่า เอกทิปปลาย มีความว่า ท่านทั้งหลาย จงให้ส่วน เป็นที่ประสงค์อันดีงาม คือ ส่วนแห่งบุคคลคู่เดียวกันนั้น นับนี้ พระ ผู้มีพระภาคจะทรงวางแบบ จึงรัสคำว่า อิช ปัน เป็นอาที เพื่อ แสดงอากรสำหรับภิษฐ์จะพูดให้ส่วนเฉพาะบุคคลผู้นั้น في
[๒๔๗] บรรดาบทเหล่านั้น หลายบทว่า สง อนุสร อุปฏิณา
อนุสร อูปฏิณ มีความว่า หากว่าภิษฐ์นั้น อยู่ในวัดตำบลละวัน หนึ่งบ้าง เฉิดวันบ้าง, บุคคลผู้เดียว ย่อมได้ส่วนใด ในวัดตำบล หนึ่ง ๆ พิงไหว้ว่าส่วน ๆ, จากส่วนนี้ ๆ ส่วนเป็นที่ประสงค์