ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ตะใจสมดังปาสักโกอรรถภาพพระวินัยมหาวรร ตอน ๒ - หน้าที่ 358
ศาสนบางแห่งดีมิเมื่อเทียบฉบับก เข้าสู่เฉพาะเรือนหลังหนึ่งกดีดี,
กิเลฬ ภิกขัทหลายในนั้น เห็นเธอแล้วถามเนื้อความนั้นแล้วแบ่งกัน
ถือเอา เป็นอันถอดออกด้วยดีเหมือนกัน.
วินิจฉัยในว่า อธิฐานู นี้ พึงทรงดังนี้ :-
อันภิกษุอธิฐาน พึงรู้จักวัตร ความผิดศราว่า ภิกษุนั้น
พึงถือมงประกาศเวลาแล้ว คอนหน่อยหนึ่ง ถ้าภิกษุทั้งหลายมาตาม
สัญญาจะงงหรือก่อกำหนดเวลา พิงแบ่งกันภิกษุเหล่านั้น ถ้าไม่มา,
พึงอธิฐานว่า "จิวเหตนีถึงแก่เรา." เมื่ออธิฐานแล้วอย่างนั้น
จิวทั้งปวงเป็นของเราเท่านั้น ส่วนลำดับไม่คงอยู่ ถ้าขึ้นทีละ
ผืน ๆ ถือเอาอย่างนี้ว่า "นี้ส่วนที่หนึ่ง ถ้าเรา, นี้ส่วนที่สอง,"
อธิฐานว่าเธออธิฐานแล้ว เป็นอันถอดออกแล้วดี แต่ลำดับคงอยู่.
จิวเป็นอธิฐานผู้นั้นให้ถือเอาอยู่ อย่างนั้น อธิฐานแล้วเหมือนกัน,
แต่ถ้ากิฏฐีจะงงหรือไม่ก็ดำตาม ประกาศเวลาหรือไม่ประกาศก็ดาม
ถือเอาด้วยทำในใจว่า "ที่มีแต่เราเท่านั้น จิวเหล่านี้ย่อมเป็น
ของเฉพาะเรา," จิวเหตนันนึ่ง เป็นอันถอดเอาไม่ชอบ. หากเธอก้อ
เอาด้วยทำในว่า "ที่ไม่มีใคร ๆ อื่น, จิวเหล่านี้ย่อมถึงแก่เรา."
เป็นอันถอดด้วยดี.
สองงว่า ปฏิตต คูส มีความว่า เมื่อสลากในส่วนอันหนึ่ง
สักว่าให้จบแล้ว, เมื่อมีภิกษุตั้งพันธูป, [๒๔๕] จิวรชื่อว่าอธิฐาน
ทั้งปวงถือเอาแล้วเท.
ข้อว่า นากามา ภิกโ ภคา ทาทพ์โห มีความว่า ก็ถ้าว่า ภิกษุ