การฝึกสมาธิและการบรรลุฌาน พระแท้ หน้า 230
หน้าที่ 230 / 371

สรุปเนื้อหา

การฝึกสมาธิจำเป็นต้องฝึกใจให้ถาวรที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งจะทำให้เกิดความนิ่งและใสบริสุทธิ์เมื่อทำได้สำเร็จ ผู้ฝึกจะเห็นดวงกลมสุกสว่าง สภาวะนี้เกิดจากความสงบระงับของกิเลส ทำให้สามารถบรรลุฌาน ๔ ระดับได้ เช่น ฌานแรก เกิดจากการปรับใจให้บริสุทธิ์ และกระแสสติไม่มีสิ่งรบกวนต่าง ๆ ที่จะมาทำให้จิตใจเศร้าหมอง จะต้องรู้จักการปล่อยวางจากอุปกิเลส ๑๖ อย่าง เช่น โทสะ, อภิชฌา ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงความบริสุทธิ์ของใจได้ดีมากขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาจิตให้สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่องนี้

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของสมาธิ
-วิธีการฝึกสมาธิ
-การบรรลุฌาน
-ผลกระทบจากกิเลสและอุปกิเลส
-กระบวนการพัฒนาจิตใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลักสําคัญอยู่ว่า ต้องอบรมใจให้เป็นสมาธิแน่วแน่ให้ได้เสียก่อน โดยการวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นที่ตั้งถาวรของใจ เมื่อใจของผู้เจริญภาวนาเป็นสมาธิแน่วแน่ยิ่งขึ้น ไม่ชัดสาย สงบนิ่ง มั่นคงอยู่ในอารมณ์เดียว ใจก็จะใสบริสุทธิ์ขึ้นเรื่อย ๆ จนปรากฏเป็นดวงกลมสุกสว่าง ผุดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ สภาวะที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ย่อมหมายความว่า กิเลสเบี้องกลาง หรือ ที่เรียกว่า นิวรณ์ ๕ ได้สงบระงับจากใจไปแล้ว ใจจึงด่าดิ่งนิ่ง แน่วเข้าสู่ภายในต่อไปอีก ทำให้ผู้เจริญภาวนาบรรลุฌานทั้ง ๔ ระดับไปตามลำาดับ ๆ ดังได้กล่าวแล้วในบทที่ ๗ สามัญญผล าดับที่ ๑ หลังจากบรรลุฌาน ๔ แล้ว ถ้าผู้เจริญภาวนายังสามารถ ประคองใจเป็นสมาธินิ่งแน่วต่อไปอีก ใจย่อมบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ผ่องแผ้ว สุกสว่างยิ่งขึ้น ปราศจากกิเลสและอุปกิเลส จึง อุปกิเลส คือ สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก มี ๑๖ อย่าง คือ ๑. อภิชฌา วิสมโลภะ ละโมบ จ้องจะเอาไม่เลือก ๒. โทสะ คิดประทุษร้าย ๓. โกธะ โกรธ ๔. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้ ๕. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน 5. ปลาสะ ตีเสมอ ๗. อิสสา ริษยา ๔. มัจฉริยะ ตระหนี่ ๙. มายา เจ้าเล่ห์ ๑๐. สาเถยยะ โอ้อวด ๑๑. ถัมภะ หัวดื้อ ๑๒. สารัมภะ แข่งดี ๑๓. มานะ ถือตัว ๑๔. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน ๑๕. มทะ มัวเมา ๑๖. ปมาทะ เลินเล่อหรือละเลย ๒๒๘
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More