ข้อความต้นฉบับในหน้า
โลภอยากได้
ชาติอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้รูปนั้นมาสนองอภิชฌา ก็จะรู้สึกโทมนัส
คือเป็นทุกข์ ถึงแม้จะได้รูปนั้นมาตามต้องการ ก็อาจรู้สึก
พึงพอใจชั่วระยะหนึ่ง แต่ก็จะต้องเกิดความโทมนัสในที่สุด
อยู่นั่นเอง เพราะรูปนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมสลาย หรือ
พลัดพรากจากเราไปในที่สุด นี่คือผลของการไม่สำรวม
ซึ่งเป็นกิเลสกามที่นอนเนื่องอยู่ในใจโดยธรรม
จักขุนทรีย์
สำหรับอินทรีย์อื่นที่เหลืออีก ๕ อย่างก็เช่นเดียวกัน ถ้า
ไม่สำรวมแล้วจะมีผลเป็นทุกข์เหมือนกันหมด ถามว่าทุกข์อยู่
ตรงไหน ทุกข์ก็อยู่ทีใจนั่นเอง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การสำรวม
อินทรีย์ทั้งหลาย แท้ที่จริงก็คือการสำรวมใจ หรือที่เรียกว่า
“สำรวมมนินทรีย์” นั่นเอง
พระภิกษุที่สํารวมมนินทรีย์หรืออินทรีย์ทั้งหลายได้ ย่อม
เสวยสุข เพราะกิเลสภายในกล้ำกรายจิตใจไม่ได้ ดังที่พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
“ฝนย่อมไม่รั่วรดเรือนที่มุงดีแล้วฉันใด ราคะย่อมไม่รั่ว
เข้าจิตที่อบรมดีแล้วฉันนั้น”
ขุ. ธ. ๒๕/๑๑/๑๖
๑๘๐