การพัฒนาจิตผ่านมโนมยิทธิ พระแท้ หน้า 236
หน้าที่ 236 / 371

สรุปเนื้อหา

เมื่อผู้เจริญภาวนาได้บรรลุมโนมยิทธิแล้ว หากยังสามารถรักษาสมาธิได้ จะทำให้จิตบริสุทธิ์ขึ้น สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้ เช่น การแปลงกายและล่องหน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สอนว่า เมื่อจิตเป็นสมาธิและปราศจากกิเลส จะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ สามารถทำให้คนหลายคนเป็นคนเดียว รวมถึงการเหาะเหินเดินอากาศ ก็เป็นไปได้เมื่อจิตมีความแน่วแน่และบริสุทธิ์ที่สุด

หัวข้อประเด็น

-มโนมยิทธิ
-การบรรลุภาวนา
-อิทธิฤทธิ์ในทางพุทธศาสนา
-สมาธิและบริสุทธิ์
-ปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เท่านั้น เช่นเดียวกับการที่เราตั้งใจซื้อสินค้าอย่างหนึ่งอย่างใด แล้วได้ของแถมเพิ่มมาอีก ข้อนี้ฉันใด “มโนมยิทธิ” ก็ฉันนั้น สามัญญผลลำาดับที่ ๓ เมื่อผู้เจริญภาวนาบรรลุ “มโนมยิทธิ” แล้วถ้ายังสามารถ ประคองจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ต่อไปอีก จิตย่อมบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ผ่องแผ้วสุกสว่างยิ่งขึ้น ย่อมปราศจากกิเลสและอุปกิเลส จึง มีประสิทธิภาพในการงานยิ่งขึ้นอีก หากน้อมจิตไปเพื่อให้ได้ฤทธิ์ ก็จะบรรลุอิทธิฤทธิ์สูงขึ้นกว่าสามัญญผลลำดับที่ ๒ จึงสามารถ แสดงปาฏิหาริย์ได้มากขึ้น เช่น นิรมิตคนเดียวให้เป็นหลายคน ก็ได้ หลายคนให้เป็นคนเดียวก็ได้ ล่องหนหายตัวก็ได้ หรือเหาะ เหินเดินอากาศก็ได้ ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับพระเจ้า อชาตศัตรูว่า “ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส นุ่มนวล ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อแสดงฤทธิ์ เธอบรรลุ “อิทธิวิธี” หลายประการ คือ คนเดียวเป็นหลาย ๒๓๔
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More