ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พูทธิโบราณ 1 ฉบับประชาชน
หน้าการเขียนพระสูตรนี้ อาจมีชาวพุทธบางกลุ่มมีความเชื่อว่ามีตติภายใน
ซึ่งมีลักษณะอย่างนั้น ซึ่งผู้เขียนลังกวาดารสูตรปฐเสร
เมื่อมองในแง่นี้ การที่พบ “หลักฐานธรรมภายใน” จากคันธารและเอเชีย
กลาง ในกลุ่มคัมภีร์ธรณ์ของเรวา-หินยาเฉพาะในแก้ของหลักธรรม โดยไม่มี
ความชัดเจนในแง่ของประสบการณ์ภายในหรือ “ภาพที่เห็น” จึงไม่ใช่เรื่อง
แปลก และไม่ใช่เหตุที่จะสรุ่ว่าไม่มีหลักฐานธรรมภายในในพื้นที่นี้ เพราะเรื่อง
ของ “ภาพเห็น” จากประสบการณ์ภายในนั้นเป็นสิ่งที่ไม่นิยมกล่าวถึงในคัมภีร์
กลุ่มนี้แล้ว แต่ยังน้อยหลักฐานธรรมภายในในแก้ของหลักธรรมที่พบ ก็เป็น
ด้วยยันอยู่ในตัวอยู่แล้วว่าหลักการที่กล่าวไว้ในวิชาชาณธรรมกายนี้ก็คือ
หลักการของพระพุทธศาสนาจริง
ตัวอย่าง “การเห็น” ที่กล่าวถึงในพระไตรปิฎกบาลี กับแนวทาง
การทำวิจัยเพิ่มเติมในอนาคต:
แม้ว่าในพระสุทธารบิลของเรวาจะไม่เน้นกล่าวถึงประสบการณ์
ภายในในแง่ของสิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนเหมือนคู่มือปฏิบัติธรรมหรือพระสูตร
มหายานก็ถาม แต่ยังน้อยเรื่องของ “การเห็น” อึ่นเป็นส่วนสำคัญของ
ญาณทัศนะ (ทั้งรู้และเห็น) ก็มีกล่าวไว้ไม่น้อย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ในอุฐฏปุราม ปัญจกนิบาต อังคุณตรินิกาย พระภิกษุปุ่งเข้ามาสอบ
ถามพระอานนทถึงเหตุที่พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์พระเทวทัตว่า “พระเทว
ทัตจะต้องเกิดในปาย ตกนรก ดำรงอยู่ตลอดไป ไม่มีทางช่วยได้ (ในนรก
นั่น)” นั้น พระองค์รู้ทุกอย่างแล้วจึงพยากรณ์หรือว่าทรงพยากรณ์โดย
หลักการเท่านั้น พระอานนท์ทรงนำเรื่องนี้กราบทูลแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า