ข้อความต้นฉบับในหน้า
ว่าเป็นจุดที่สำคัญ เพราะเป็นที่อยู่ของไฟที่รัชชีวิตซึ่งถูกก่อไว้ด้วยลมและรองรับไว้ด้วยน้ำอีกชั้นหนึ่งและสุดท้ายคืออากาศ การแตกของน้ำหรือที่เรียกว่า "น้ำพระธรรม" หรือ "น้ำดวงจิต" นี้นำมา ซึ่งการตายของบุคคล หากน้ำพระธรรมหรือ น้ำดวงจิตยังดื่ดอยู่ก็จะเป็นจุดบังคับให้บุคคลมีการกระทำ มีคำพูดและมีความคิดเห็นต่างๆ และที่สำคัญจะดีเป็นจุดที่สุดธรรมเริ่มปรากฏ
ผู้กำลังจะสิ้นชีวิตจะหมดการรับรู้ทางผัสสะภายนอก ซึ่งเป็นลักษณะใกล้เคียงกับผู้เข้าสันโรในขณะจิตจะดับนั้นคงมีรีนเน้นว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ หากบุคคลผู้นั้นไม่รู้จักหาทิ้งคำว่าคือญุต้องมีมารเป็นที่ไป แต่หากรู้ว่าที่พึ่งคือสิลาสในหรือไฟนี้กองก็จะ “เสวย (ผล) พระธรรม” เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายและพันจากอายอย่างไร ก็ต้องตามบุคคลจะหาที่พึ่งเมื่อกำลังจะสิ้นชีวิตได้สำเร็จ ก็เมื่อได้ผัก “บังสูญตัวเอง” ในขณะที่มีชีวิตอยู่เนื่องๆ การบังสูญตัวเองก็คือการการทำนิสสาสวตเข้าในธรรหยุดกระแสหลุดหายใจ และนิ่งเหมือนผ้าสังฆาฤซึ่งเทียบได้กับชาตพันธนเอง ต่างแต่ด้วยผู้ปฏิบัติมีชีวิตอยู่ พระสัมทีรีบำนดไปบังสูญผู้นายอ่อนไม่สำเร็จผลหากไม่สามารถบังสูญตัวเองได้เสียก่อน
แสงสว่างภายในที่กล่าวถึงข้างต้นสามารถป้องกันอบายเพราะฆ่ามปธรรมได้ บาปธรรมที่โยคาวจรกล่าวถึงคือ สัพพาคุฬสาธารณเจตสิกและปิณณากุฬสาธารณเจตสิกรวม 14 ประการ ได้แก่ โมหะ และโทสะ เป็นต้น
37 พุทธนขั 9.2