ข้อความต้นฉบับในหน้า
พื้นฐานธรรมภายในคำถีพิทุธโธวาณ 1 ฉบับประชาชน
เผยตนออกมาในที่สุด หลักถกถคภรรยังถูกยืนยันต่อเนื่องมา และปรากฎในคัมภีร์ใหญ่เช่นศรีมาลาเหลาว (พ.ศ. 880-980)
ความมากมายของคำถีเหล่านี้อาจเป็นร่องรอยที่ไม่สามารถจะมองข้ามได้ และไม่สามารถด่วนสรุปว่าสัน “ธรรมกาย” เป็นสายหยานซึ่งถูกอธิบายเพิ่มเติมในยุคหลังเสี้ยงหมดทั้งสิ้น (แมจะมีการเพิ่มเติมอย่างหลากหลายในยุคต่อๆ มา)
4. “ธรรมกาย” ในเชิงปฏิบัติจริงในคำภีร์โบราณ
คำกล่าวว่าธรรมกายนั้น “มีแต่ผู้ปฏิบธรรมและมีบารมีมากเพียงพอเท่านั้นจึงสามารถเข้าถึงได้” ย่อมเป็นที่ยืนยันอยู่แล้วถึงการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงธรรมกายอันเป็นเป้าหมายสูงสุด
มหาปริวาสสูตร กล่าวว่าผู้ที่สามารถปฏิบัติธรรมนบรรลือมีมากเพียงพอ จึงจะสามารถเข้าถึงพระธรรมกายด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์ได้ ธรรมกายของพระพุทธเจ้า และกุศโลบายของพระองค์เป็นอัจฉริยะ เข้าถึงได้ ด้วยปัญญาและสมาธิ พระอเสชะคือธรรมกายซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติตตามขั้น 5 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา วิปฤติ วิปฏิญาณ ทัสสนะ
ในการปฏิบัติธรรมนัน ต้อง “ทั้งรู้ทั้งเห็น” จึงจะสามารถได้ (วาสิฏฐสูตรภาษาบาลี พ.ศ. 610-620 สายสรรวาสติวา) สมาธิสูตร (ฉบับ พ.ศ. 880-980) ให้ตรีกก็ถึงพระพุทธคุณอย่างต่อเนื่อง ภัทรปลาสูตร (พ.ศ. 1080-1280) กล่าวว่า การทำสมาธิแบบระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งสิบทิศ แล้วพระองคจะมาปรากฏอยู่เฉพาะหน้าให้สื่อสารกันได้ การเห็นนั่น “เปรียบ