ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของพระองค์ และทรงรู้แจ้งในสรรพสิ่งหรือทรงมีสัพพัญญูญาณ คัมภิราห์พระ
รำมภูมาณมีได้บังอุโสโอกาสเข้าถึงหรือความมีความเป็น “สัพพัญญู
พุทธภาวะ” ของบุคคลใดๆ แต่กลับส่งเสริมให้ “โยคาวจรบุตร” ได้ละลึก
ถึงพระธรรมกายเนืองๆ เพื่อความมีความเป็น “สัพพัญญูพุทธภาวะ” นั้น
การที่ระบุว่าธรรมกายของพระพุทธเจ้าอันเป็นนายที่ประกอบด้วยญาณรู้
แจ้ง (มรรคุณ ภญาณ และวิฏิตญาณ) ยังคงเป็นแนวคิดหรือหลักการ
ของเธวาวโดยแท้
ในคัมภีร์เขมรระบุว่ากระบวนการปฏิบัติสมาธิโดยภาณา สัมมาอะระหังก
การกำหนดจิตด้วยริศมีอ่างสีต่างๆ เดินลงไปตามเส้นทางภายในกาย
แล้วไหวดิ่ง “ภาวนาตรงสะอาดนั้นแล้วเห็นรัศมีเป็นดาวสีขาวใสสว่าง”
คัมภิราวกล่าวถึงการ “หาดวงแก้ว” เมื่อพบแล้วจึงจะพาตนไปถึงนิมพาน
ได้ จะเห็นพระธาตุทราย เห็นดวงสีส เห็นพระอรัญสงฆ์ “ประทับนั่ง ณ ประตูล
นิพพาน” การเห็น “ประตู” นี้ย่อมแสดงว่ามีช่องทางที่จะเปิดไปสู่พระนิมพาน
พบพระพุทธเจ้าได้ในที่สุด
คัมภิรจุตราราขา ยืนยันว่า ในอดีตมีวิธีการปฏิบัติธรรมแบบวิชชา
ธรรมกายที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) ได้ค้นพบอย่างจริง คัมภิรึ่นี้ แม้จ
แต่งด้วยบทธลอนสั้นๆ เพียง 32 บาท แต่สามารถสรุปเนื้อหาที่เป็นหัวใจการ
ปฏิบัติธรรมที่สำคัญ คือ พุทธราสสติ เมตตานุสสติ อสุภานุสสติ และมรรคานุสสติ ไว้อย่างครบถ้วนชัดเจนและง่ายต่อการทำความเข้าใจ ร้องรอย
วิชชาธรรมกายที่ปรากฏอยู่ในคัมภิรจุตราราขา ไม่มีความคลาดเคลื่อนจาก
คำสอนที่ถูกบันทึกไวในพระไตรปิฎกบ่ย่างใด