ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักฐานธรรมาภายในคัมภีร์พุทธโองการ 1 ฉบับประชาชน
พระอรรถถากรผู้มีชื่อเสียง ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราชกัสดรธรรมาที่ 4-5 ในพุทธโองการ สุขปีติ ระบุไว้ว่า ท่านเดินทางมาศร่งก้าเพื่อแปลธรรมกาลสิงห์เป็นนครในรวี ปี ค.ศ. 387 และเสร็จสิ้นงานแปล เดินทางกลับประเทศในรวี ค.ศ. 403 (Gray 1892: 13, 19) ท่านได้แปลและเรียบเรียงผลงานอรรถถกเป็นจำนวนมาก แต่ในจำนวนนี้ไม่พบชื่อ คัมภีร์รตุรารา (Malalasekara 1994: 94-98) ส่วนบัญชีรายการโบลานจตุราราข์เก็บไว้ที่จดเอกสารในหอสมุดแห่งชาติ ได้บันทึกยืนยันอย่างชัดเจนเป็นภาษาไทยว่า ผู้แต่งคัมภีร์นี้คือพระพุทธโสภาจารย์ (Skilling and Santi 2002: 60) ทั้งนี้เป็นไปได้ผู้จัดทำบัญชีอาจเขียนบันทึกตามหมายเหตุที่ถูกจารณต่อๆ กันมาในตอนท้ายใบลาน (colophon)
จากการศึกษาเปรียบเทียบการใช้คำ จำนวน และเนื้อความบาบในการอธิบายคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคัมภีร์รตุราระกับพระไตรปิฎกและอรรถถกาบาลี ทำให้ทราบว่า มีหลายแห่งด้วยกันที่ผู้แต่งคัมภีร์รตุราราใช้คำ สำนวน การอธิบายเหมือนกับที่พระพุทธโสภาจารย์ใช้อธิบายคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในสมันตปาสาทิกา อรรถถกาพระวินิช ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าคัมภีร์รตุราราขาดตกแต่งขึ้นโดยพระพุทธโสภาจารย์ แต่ดูจากผลงานทางวรรณคดีของท่านแล้ว ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอที่จะสรุปได้ว่านั่นเป็นผู้แต่งจริง ๆ ในกรณีนี้ผู้ศึกษาสันนิษฐานว่า ผู้แต่งคัมภีร์น่าจะเป็นพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่มีการศึกษา มีความรู้ความสามารถถึงในด้านพระไตรปิฎก อรรถก และภาษาบาลี
อีกอย่างหนึ่ง จากการประเมินข้อความของคัมภีร์รตุราระในคัมภีร์สัญห์ติ และคัมภีร์ทุทธสิกขา-มูลสิกขา ข้อมูลที่บันทึกไว้ในหนังสือรวมวรรณคดี