ข้อความต้นฉบับในหน้า
เหมือนคนส่องเงาของตนในถาดน้ำมันที่ใสและนึ่ง" พระสูตรนี้ยังกล่าวถึง เห็นในความว่างเปล่า "เมื่อใดตั้งมั่นในการรับรู้จากภาวการณ์ปลายแล้ว มีจดจ่ออยู่กับพระพุทธองค์ก็จะเห็นพระองค์เสมือนมาปรากฏอยู่เฉพาะหน้า" พระสูตรนี้นั่นสกฺเสฏฺตา แต่เห็นองค์พระในความว่าง คือเมื่อปล่อยวางและความเป็นของว่างเปล่าของทุกสิ่งที่เห็นในสมาธิ แล้วจึงจะเห็นองค์พระ
ในคัมภีร์ทีไม่บูราณชื่อ (ายานสำคเทวดา พ.ศ. 1080-1280) กล่าวถึง การกลั้นจิตให้บริสุทธิ์ด้วยการตรึกระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้มีแผ่หลาดธรรม จนทำลายอสุภไปหมดสิ้น ในคัมภีร์โบราณวรรณจรรยา พระพุทธศาสตรรรูปธรรมที่ 10 กล่าวถึงการปฏิบัติแบบพุทธนุสูตร "หยุดนึ่งที่เป็นแก้ว" จนเห็นพระพุทธเจ้าในมณฑลแห่งพระอาทิตย์ การเข้าถึงธรรมเปรียบกับ "มุทธาธิชก" ซึ่งชาบเอิบอาบ (ราวดนที่ศรีษะ) ทำให้ "รูป (ภายใน) เต็มอิ่มและบริบูรณ์ขึ้น" ทั้งยังกล่าววา "ในที่สุดสิ่งที่จะ菲ร์ทั้งปวงได้มาณูธติสต์สะดี" ในสารานุกรมโศตุมสูตร (พ.ศ. 1080-1280) กล่าวถึงการเข้าไปสู่ธรรมดาต้วยวิธีเข้าไปในภายในแล้วจะเห็นพระศากยมุนี ธรรมศรีสูตร (พ.ศ. 1080-1280) กล่าวถึงพระพุทธเจ้าหลายมากมายเหมือนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา และเช่นเดียวกัน คัมภีร์ต้นฉบับภาษาขมาน จากเทอรีกสถาน เมื่อมีสมาธิก็จะเข้าถึงธรรมกาย คัมภีร์สาย "ตาภคตรรคะ" ยืนยันว่าธรรมกายคือผลจากการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ข้อสังเกตตรงนี้คือ เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติธรรมน ย่อมเป็นเรื่องของขั้นตอนในการทำสมาธิย่อมถ่ายทอดกันสืบต่อมาในแต่ละสำนัก โอกาสของ