ข้อความต้นฉบับในหน้า
จากการวิจัย ยังไม่สามารถสรุปชื่อผู้แต่งและวันที่แต่งคัมภีร์ได้ แต่เมื่อประเมินจากหลักฐานต่างๆ แล้ว คัมภีร์นี้น่าจะถูกแต่งขึ้นในราชสวรรค์ที่ 5-10 โดยพระภิกษุผู้มีความรู้ความสามารถทั้งพระไตรปิฎก อรรถกถา และภาษาบาลี หลังจากนั้นก็มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศลังกา พม่า ไทย ลาว และกัมพูชาโดยประเทศลังกาให้ความสำคัญกับคัมภีร์นี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าคัมภีร์นี้ดั้งเดิมถูกแต่งขึ้นที่ประเทศลังกาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคู่มือแนะนำการฝึกปฏิบัติธรรมสำหรับพระภิกษุ คัมภีร์จุตารําขามีร่องรอยสำคัญของการมีอยู่ของการปฏิบัติธรรมแบบวิชาการภายใน ประเด็นสำคัญที่พบคือ พระสันสัมพุทธเจ้ามีธรรมภายแยกออกจากกรุปลายอย่างชัดเจน ลักษณะธรรมภายของพระองค์นั้น มังคลหรือมาถึงด้วยญาณรู้เฉพาะที่ไม่ทั่วไป เป็นเรื่องจินตนัยที่ใครๆ ไม่ควรคิด หลักฐานที่ค้นพบนี้ตรงกับคำสอนวิชาธรรมภายในที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) โดยท่านกล่าวอธิบายขยายความเพิ่มเติมจากคัมภีร์ตามผลการปฏิบัติที่ท่านเข้าถึง อีกทั้งหลักฐานวิชาธรรมภายที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ยังตรงกับคำสอนที่ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ในปัจจุบันพูทธอานทนอีกด้วย นอกจากส่วนของหลักฐานวิชาธรรมภายแล้ว ยังพบว่าเนื้อหาทั้งหมดของ พุทธานุสติได้ถูกนำมาจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาอย่างเพราะอย่างยิ่ง คัมภีร์จตุราราขาใช้คำ และสำนวนอธิบายคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในสัมปทปสาทิกา อรรถกถาพระวินัย ดังนั้นคัมภีร์จตุราราขาจึงนับว่าเป็นคัมภีร์ที่มีความเก่าแก่ มีการใช้ งาน และถูกเก็บรักษาสืบทอดกันมาเป็นอย่างดี มีความน่าเชื่อถือ เป็นคัมภีร์