หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโอวาท 1 ฉบับประชาชน หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ 1 ฉบับประชาชน หน้า 173
หน้าที่ 173 / 278

สรุปเนื้อหา

การวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความเหมือนกันและความแตกต่างในกระบวนการปฏิบัติของธรรมภายในและโยคาวจร โดยอิงจากหลักการเดียวกัน ซึ่งสามารถสืบสาวย้อนกลับไปถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 20 การพัฒนาของธรรมภายในและการไปสู่นิพพานเป็นผลมาจากการดำเนินการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและสามารถศึกษาต่อไปได้ การถ่ายทอดความรู้ในด้านนี้ช่วยให้ผู้ที่ต้องการปฏิบัติสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น

หัวข้อประเด็น

-หลักธรรมแห่งอริยมรรค
-การปฏิบัติสมาธิวนา
-โยคาวจรในศาสนาพุทธ
-การศึกษาธรรมภายใน
-การพัฒนาหลักการธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลักฐานธรรมภายในคัมภีร์พุทธโอวาท 1 ฉบับประชาชน ความเหมือนกันในส่วนของหลักการและความแตกต่างในระดับกระบวนการปฏิบัติ นี้ให้เห็นว่าหลักการในภาคปฏิบัติ ทั้งสองฝ่ายมาจากโครงสร้างเดียวกัน แต่พัฒนากระบวนการในการปฏิบัติไว้วางกัน และมีความเป็นไปได้สูงที่การพัฒนานั้นเป็นอิสระต่างคนต่างพัฒนา ซึ่งเห็นได้ชัดจากการหยุดนิ่งที่ตำแหน่งที่ตั้งของจิตเพียงจุดเดียวในการวิชาชาธรรมภาย กับการเคลื่อนของจิตไปตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่งในกรณีวาวร และเห็นได้ชัดอีกในกระบวนการทำความสำเร็จในชั้นของอริยมรรค (กายหยายม) สัมพันธ์ชั้นของอริยมรรค (กายละเอียด) ของวิชาชาธรรมภาย ซึ่งแตกต่างกับการทำความสำเร็จในชั้นของอริยมรรคให้เสร็จสิ้นทั้งหมด ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการทำความสำเร็จในชั้นของอริยมรรคของโยคาวจร งานวิจัยนี้ชี้ว่าธรรมภายในเป็นที่รู้จักกันมานานแล้วในสังคมชาวพุทธของเธออาดเนย์ เมื่อนับเนื่องด้วยอายุของโยคาวจร ซึ่งอาจสืบสาวด้วยเหตุำนำวรรณะกรรมไปถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 20 ธรรมภายเป็นที่รู้จักว่าประกอบขึ้นด้วยญาณและเป็นคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า การไปสู่นิพพานคือการได้พบพระพุทธเจ้าซึ่งควรหมายถึงการได้พบพระธรรมภายด้วยโยคาวจรได้พัฒนากระบวนการปฏิบัติสมาธิวนาเพื่อไปยังจุดดังกล่าวและได้บันทึกไว้เพื่อทำความเข้าใจสำหรับผู้ต้องการปฏิบัติ โดยได้ถ่ายทอดมาตั้งช่วงท้ายพุทธศตวรรษที่ 24 ส่วนกระบวนการปฏิบัติสมาธิวนาของวิชาชาธรรมภาย ซึ่งตั้งขึ้นโดยพระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) ในศรีังท้ายพุทธศตวรรษที่ 25 ต่อมาถึงพุทธศตวรรษที่ 26 และกล่าวว่าได้รื้อพื้นขึ้นหลังจากสุขายไหมราวสองพันปีนั่น มีความแตกต่างในนัยสำคัญของการปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งจากโยคาวจร การวิจัยค้นว่าถ้าคำกล่าวของพระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) ดังกล่าวควรได้รับการศึกษาต่อไป
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More