ข้อความต้นฉบับในหน้า
คัมภิธิโยควาจรเพียงกายเดียวยังคงธรรมกายของพระพุทธเจ้าไม่มีธรรมกายของ สถาบัน สถาทคามี หรืออนาคามี จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าสธรรมกายเป็นทางผ่าน ไปสรรพทางที่สูงกว่านี้ดกว่าดังกว่าระในวิชาธรรมกาย หากกล่าว ถึงการย้อนหาเวลาที่ธรรมกายเป็นที่รู้จักในเอเชียคนเนย์แล้ว ร้องรอยทาง วรรณกรรมบาลอือของล้านนาคือคัมภีร์อยู่ปัดสนติได้ชั่วความเป็นไปได้อย่างสูง ว่าธรรมกายเป็นที่รู้จักก่อน พ.ศ. 1950 แผ่นดินพระเจ้าสามฝั่งแกน กษัตรย์ เมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ดีตามพบว่าในคัมภิธิรบรรยาย ถึงสิ่งที่อาจนับได้ว่าเป็นบุคลาธิฐานประเภทหนึ่งหรือคุณสมบัตินึงของ พระพุทธเจ้า สิ่งนั้นมีพัทธบัญญัติว่า “พระยานากาสิม” ดังข้อความว่า “การอัน นี้คือว่า ดวงเดือนพระอาทิตย์ ให้หลับตาแลเห็นดวงเมื่อนั้น ได้ชื่อว่า คิดถึงพระพุทธเจ้าแล เจ้าให้พระยานากาสิมนั้น ลงมารับเอายุบบุคคลผู้นั้น แลเห็นพระยานากาสิมองค์แจ้งดังแสงพระอาทิตย์ ในทางงรรค์นี้นั่นแล”56 คำ ว่าพระยานากสิมนั้นสามารถปรับเขียนเสียใหม่ด้วยอักษรธรรมพร้อมกับวันวรรค ตอนให้เหมาะสม จะได้พัทใหม่ว่าพระญาณสิถิล ซึ่งคือชื่อของหนึ่งในคัมภิธิรที่ศึกษาอยู่ และเมื่อวิเคราะห์ในคัมภิธิรพระญาณสิถิลก็พบข้อความที่ให้ความ หมายของพระญาณสิถิลว่า “ให้อยู่ในสิลันทั้งสิ้นนี้เป็นหนทางมรรครสีผลสี ชื่อว่าพระญาณสิถิลแล พระพุทธเจ้าอยู่ในนิพานส่องแจ้งผลญาณลงมาแต่นิพพาน บุคคลผู้ใด่ได้ทรงศิลให้เป็นดังผู้ชายอันมีรอมนั้นแน่”57
56 บรรจพันธ 2.17.1
57 พระญาณสิถิล 53.3
บทที่ 3 เอเชียอาเนย์ | 143