ข้อความต้นฉบับในหน้า
যে ธรรมกายที่กล่าวถึงในยุคนี้น มิได้มุ่งหมายถึงตัวคัมภิริ แต่หมายถึงกาย ที่ประกอบไปด้วยลักษณะมหามรรคสามสิ่งสองประการ ซึ่งซ้อนอยู่ภายใน รูปภายอีกที และการจะเกิดประสบการณ์เห็นในสมาธิในนั้น ผู้ปฏิบัติได้รับคำ แนะนำว่าต้องวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ซึ่งจะก่อให้เกิดประสบการณ์ภายใน เช่น เห็นกายแก้ว เห็นดวงสว่าง และเห็นองค์พระผู้อุบะเป็นตัน
บทสรุป
มูลเหตุจุงใจที่ผู้วิจัยทำการศึกษาเปรียบเทียบกับเต่าเพราะรูปแบบ การสอนสมาธิของเต่าในยุคนี้มีแนวโน้มว่าลอกเลียนแบบสมาธิไปจากพุทธ ถึงแม้จะกระจ่างเรื่องศูนย์กลางกายหรือจุดต้นเกียร แต่จุดนี้อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าลีวา ค่ะ
ทั้งนี้พระโลกฌานบวชในนิยายมหายาน ได้รับรูปแบบสมาธิแบบพุทธนาสติต เข้ามาเผยแพร่ในจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาได้ส่งอิทธิพลต่อการสอนสมาธิของเต่าอย่างมาก กระทั่งเต่าได้ลอกเลียนแบบเทคนิคการนึกนิมิตองค์เทพไว้ในกลางท้อง ซึ่งนักวิชาการระบุว่านี่เป็นเทคนิคที่ถูกถลกเลียนแบบมาจากทำสมาธิของพุทธศาสนา ที่มีการถนึกนิมิตพระพทธรูปไว้ในกลางท้อง
สำหรับหลักฐานการสอนสมาธิโดยพระอัญชะนำว่าท่านได้ระบุถึงการวางใจในระหว่างการหายใจว่า ผู้ปฏิบัติองวางใจไว้ในกลางมาหฎี สี่ ซึ่งสามารถนับยะได้สองกรณีคือ ศูนย์กลางกายกับกลางดวงตาทั้งสี่ อย่างไรก็ดี อันชื่อวากวได้รับรายละเอียดว่า ศูนย์กลางกายอยู่ในตำแหน่งได้
นอกจากพระอัญชะนำว่าแล้ว ในรวมพุทธศตวรรษที่ 11 พระมหาริษฐ์ ได้แปลคัมภีร์เกี่ยวกับสมาธิหลายคัมภีร์ ซึ่งคัมภีร์สมาธิเหล่านั้นได้รับบูรณวิธี