ข้อความต้นฉบับในหน้า
การเข้าสู่ดุตตลมนแล้วเข้าสู้ต่อยังโลกุตตรธรรมและผลระดับต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเลื่อนเป็นขั้นๆ กล่าวคือจากดุตตลมนี่สามารถเข้าสู่จิตของอรหันต์ มรรคและอรหันต์ผลได้เลย โดยไม่ผ่านจิตในระดับโสดาบัน สกทาคามี หรืออนาคามี หรืออาจเข้าสู้ดุตตลมนแล้วเข้าสู่จิตระดับสกทาคามีโดยไม่ต้องผ่านจิตของโสดาบันเลยก็ได้ คัมภีร์พระธรรมกายาที่ได้แสดงถึงคุณสมบัติของธรรมกายพระพุทธเจ้า ดังนั้นอาจเป็นได้ว่าการเดินของจิตดังกว่ากระทำได้เฉพาะพระพุทธเจ้า
ทางเดินของจิตจากขั้นโกสิยมนั่่งนรวมดุตตลมนั่ย์ไว้ด้วยไปสู่ระดับโลกุตตรธรรมนัน พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) ได้เทศนาไว้ว่า เมื่อได้ดุตตลมนั่ยเป็นระดับรูปพรหมแล้ว ผู้ปฏิบัตจะต้อง "นิ่ง" ที่ศูนย์กลางดวงธรรมของรูปพรหมนั้น เมื่อถูกส่วนจะเข้าสู่อากาสนัญจายะซึ่งเป็นระดับอรูปพรหม เมื่อ "นิ่ง" ต่อไปรจะเข้าสู่วิญญาณญาณตนะ อากิญจัญญายตนะ และเข้าสู่เนวสัญญาณญาณตนะ เป็นลำดับไปยังยังคงเป็นอรูปพรหมทั้งหมดจากนั้นเมื่อ "นิ่ง" ต่อไปรจะเข้าสู่สัญญานัญญายตนะ อากิญจัญญายตนะ และเข้าสู่เนวสัญญาณญาณตนะ เป็นลำดับไปยังยังคงเป็นอรูปพรหมทั้งหมด จากนั้นเมื่อ "นิ่ง" ต่อไปจะเข้าสู่สยิธรรมโครตรก ภายธรรมพระโสดาบัน ทั้งหยาบทั้งละเอียด ภายธรรมพระสกทาคามีทั้งหยาบทั้งละเอียด ภายธรรมพระอนาคามีทั้งหยาบทั้งละเอียด จนกระทั่งเข้าสู่ภายธรรมพระอรหันต์ จะเห็นได้ว่าจากดุตตลมนั่ยยังมีอีกหลายขั้นจึงจะไปถึงโลกุตตรธรรมชั้นโสดาบัน และจากชั้นโสดาบันยังต้องบรรลุปริยบุคคล คือสกทาคามีและอนาคามีเสียก่อนจึงถึงอรหันต์
ความแตกต่างที่ชัดเจนในการปฏิบัติระหว่างวิชชาธรรมกบและที่ปรากฎในคัมภีร์พระธรรมกายนี้ชี้ให้เห็นว่ามีการพัฒนาหรือสืบทอดการ