ความสำคัญของการทำทานในสังคม GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 26
หน้าที่ 26 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการทำทานในสังคมที่ช่วยสร้างความใกล้ชิดและเข้าใจกัน ลดความเห็นแก่ตัว รวมถึงวิธีการทำให้สังคมมีความสงบสุข นอกจากนี้ ยังพูดถึงเหตุผลที่ทำให้บางคนไม่ทำทาน การมุ่งหวังในความมั่งคั่งและผลประโยชน์ส่วนตัวที่อาจสร้างไฟแห่งความทุกข์ให้สังคมในระยะยาว การปฏิรูปและการสร้างจิตสำนึกในการให้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในปัจจุบัน.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของการทำทาน
-จิตสำนึกในการช่วยเหลือ
-ผลกระทบจากการไม่ทำทาน
-ความเห็นแก่ตัวในสังคม
-การพึ่งพาอาศัยกันในชีวิตประจำวัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โดยสรุปก็คือ สาเหตุที่คนเราต้องทำทาน ก็เพราะต่างคน ต่างต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันดังกล่าว เป็นเครื่องส่งเสริมสนับสนุนให้คนเรามีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน เข้าใจ กัน เห็นใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน เป็นมิตรที่ดีต่อกัน ไม่คิดเป็นศัตรูกัน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไป ใส่ใจเขา จึงไม่คิดเบียดเบียนกัน ทำให้สามารถลดความเห็นแก่ตัว และความตระหนี่ลงได้ อีกทั้งสามารถ พัฒนาความเสียสละ ความอดทน การให้อภัยต่อผู้อื่นได้ เพื่อความสงบสุขทั้งโดยส่วนตัวและส่วนรวม นี่ คือเหตุผลว่าทำไมคนเราจึงต้องทำทาน ถ้าคนเราไม่ทำทานจะเกิดโทษภัยอย่างไรบ้าง ถ้าคนเราไม่ทำทาน แน่นอนเหลือเกินว่าขั้นต้นสังคมจะเต็มไปด้วยคนดูดายอยู่อย่างตัวใครตัวมัน จากนั้นก็กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ต่างเอาเปรียบเบียดเบียนกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่โต ขนาดเป็นศัตรูก่อกรรมทำเข็ญ ถึงขั้นล้างผลาญชีวิตกันได้ แม้เป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็ตาม และถ้า เป็นการเอาเปรียบเบียดเบียนกันระหว่างประเทศ ก็จะกลายเป็นสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กัน ซึ่งจะก่อให้ เกิดปัญหากระทบกระเทือนถึงกันได้ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ซึ่งมีการสื่อสารติดต่อสัมพันธ์ กันอย่างสะดวกรวดเร็วทั่วโลก ทำไมบางคนจึงไม่ทำทาน เหตุปัจจัยพื้นฐานรากเหง้าที่ทำให้คนเรานิ่งดูดายไม่คิดช่วยใคร หรือเห็นแก่ตัว ก็คือการที่ ต่างคนต่างมีความคิดว่า ความมั่งคั่งร่ำรวย การมีทรัพย์สินสิ่งของมากๆ เท่านั้นจึงจะทำให้ชีวิตมีความสุข การแบ่งปันทรัพย์สินสิ่งของที่ตนมีไปให้แก่ผู้อื่น ย่อมเสียผลประโยชน์ตนเองย่อมยากที่จะประสบความมั่งคั่ง ร่ำรวย คนเราจึงไม่คิดแบ่งปันอะไรให้ใคร แต่จะตั้งหน้าตั้งตากอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่อย่างจำกัด มาเป็นของตนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยไม่รู้ว่าต้องมีเท่าไรจึงจะรู้จักพอ ผู้คนที่เห็นแก่ตัวมุ่งหน้ากอบโกย ไม่เห็นแก่ผู้ใด นานไปก็ จะเกิดความคุ้นเคยจนเป็นนิสัย ครั้น มาประกอบกับสันดานเดิม อันเนื่องมาจากกิเลส 3 ตระกูล ที่นอนเนื่องอยู่ในใจมาแต่กำเนิด ก็จะทำให้คน เราเกิดความโลภยิ่งขึ้น เข้าทำนองยิ่งมียิ่งอยากได้อีกมากๆ ผู้คนที่มีนิสัยและสันดานเช่นนี้ ย่อมไม่สนใจ เรื่องความเป็นธรรมในสังคม ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม อย่าว่าแต่ความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมเลย แม้แต่ความรับผิดชอบ ต่อศักดิ์และศรีของตนก็ไม่มี ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังจะค้นพบทฤษฎีชีวิตใหม่ แต่ผิดอีกว่า ความมั่งคั่งร่ำรวยจะเป็นบันไดไต่ ขึ้นไปสู่อำนาจ และอิทธิพล ถ้ายิ่งมีอำนาจและอิทธิพลมากเท่าใด ความมั่งคั่งร่ำรวยก็จะหลั่งไหลมาสู่ตน มากขึ้นเท่านั้น นี่คือที่มาของบรรดาผู้มีอิทธิพล และเจ้าพ่อมาเฟียทั้งหลายในสังคมทุกระดับบรรดาผู้มีอิทธิพล และเจ้าพ่อทั้งหลายย่อมไม่คำนึงถึงศีลธรรม กฎหมาย และความถูกต้อง พวกเขาจึงมีความคิดทุจริต มี วาจาทุจริต มีการกระทำ ทุจริต มีอาชีพทุจริต ถ้าสังคมมีผู้คนทุจริต อย่าว่าเป็นจำนวนมากเลย แม้มี เพียงคนเดียว ถ้าเขามีอำนาจและอิทธิพลมาก เขาก็สามารถสร้างความปั่นป่วน และความเดือดร้อนให้ บ ท ที่ 1 แ น ว คิ ด ใ น ก า ร ป ฏิรูป มนุษย์ DOU 11
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More