ความกตัญญูต่อมารดาและการทำบุญอุทิศส่วนกุศล GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 61
หน้าที่ 61 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความสำคัญของมารดาและพระคุณที่มอบให้แก่บุตร โดยย้ำถึงความจำเป็นในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับมารดาที่ล่วงลับ รวมถึงการพัฒนาจิตใจของบุตรเพื่อตอบแทนพระคุณของมารดา ซึ่งรวมถึงการช่วยขจัดความผิดปกติทางความคิด และการสร้างการมีจิตใจที่กตัญญู.

หัวข้อประเด็น

-คุณของมารดา
-การทำบุญอุทิศส่วนกุศล
-สัมมาทิฏฐิ
-มิจฉาทิฏฐิ
-บทบาทของบุตรต่อมารดา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว คุณของท่านด้วย หลังจากนั้นก็หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ ถ้าท่านไปบังเกิดในภพภูมิ ที่รับบุญกุศลได้ บุญก็จะเกิดทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับพร้อมๆ กัน บุตรก็ควรจัดพิธีศพของท่านให้สมเกียรติเพื่อเป็นการประกาศ ในคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวว่า มีผู้คนจำนวนมากที่มีปัญญามืดบอดด้วยอำนาจกิเลสใน กมลสันดาน เห็นว่า “มารดาไม่มี” คือไม่มีพระคุณต่อบุตร ความเห็นผิดเช่นนี้จัดเป็น “มิจฉาทิฏฐิ” ใน ทางกลับกัน กลุ่มบัณฑิตเห็นว่า “มารดามี” คือมีพระคุณต่อบุตรอย่างอเนกอนันต์ พวกเขาจึงมีความ กตัญญู กตเวทิตาต่อมารดาเสมอ ความเห็นถูกของพวกเขาจัดเป็น “สัมมาทิฏฐิ” สรุป สาระสำคัญเกี่ยวกับคุณของมารดาก็คือ ความเห็นที่ว่า “มารดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง” เป็น เรื่องสภาพใจของผู้เป็นบุตรที่กอปรด้วย “ความกตัญญูกตเวที” มารดาบางคนอาจจะมีพระคุณต่อบุตรไม่ ครบทั้ง 4 ประการ ดังได้กล่าวแล้ว แต่ถึงอย่างไร มารดาทุกคนก็มีพระคุณต่อบุตรของตนอย่างแน่นอน อย่าง น้อยที่สุดก็ 2 ประการ คือ 1. ให้ชีวิต 2. ให้ต้นแบบร่างกายที่เป็นมนุษย์ สำหรับพระคุณอีก 2 ประการ คือ 1. การให้ต้นแบบจิตใจที่เป็นมนุษย์ และ 2. การเป็นบุพการี ถ้าหากมารดาของเราจะมีข้อบกพร่องใน 2 ประการหลังนี้บ้าง ก็ไม่อาจจะลบล้างพระคุณ 2 ข้อแรกลงได้ เลย การที่มารดาของเรามีข้อบกพร่อง ก็เพราะท่านยังมีกิเลสอยู่ จึงมีเชื้อมิจฉาทิฏฐิอยู่ในใจ ดังนั้น ตัวเราในฐานะบุตร จึงไม่ควรถือเอาข้อบกพร่องของท่านมาเป็นเรื่องน้อยอกน้อยใจ โกรธเคืองท่าน หรือ ตำหนิติเตียนท่าน แต่ควรถือเอาความบกพร่องของท่านมาสอนใจตัวเรา เมื่อถึงคราวที่เราอยู่ในฐานะมารดา (หรือบิดา) บ้างว่า เราจะไม่ยอมให้ความบกพร่องเช่นนั้นเกิดขึ้นเลย ยิ่งกว่านั้น ต้องถือเป็นหน้าที่ของบุตรที่จะต้องตอบแทนพระคุณมารดาของตน อย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ และการช่วยขจัดมิจฉาทิฏฐิให้สิ้นไปจากใจของท่าน ก็ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณมารดาที่ สำคัญยิ่งประการหนึ่ง บุตรที่ทำได้เช่นนี้แสดงว่าจิตใจได้พัฒนาความรับผิดชอบขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง บุคคล ที่มีสภาพใจกอปรด้วยความกตัญญูกตเวทีต่อมารดาของตนเช่นนี้ ชื่อว่ามีความเห็นถูกเป็น “สัมมาทิฏฐิ” ในทางกลับกัน บุคคลที่ถือโทษโกรธเคืองมารดา คอยจับผิดมารดาของตนด้วยเรื่องต่างๆ ไม่ แสดงความกตัญญูกตเวที ต่อมารดาของตน ก็เพราะจิตใจของเขามืดมัวด้วยอำนาจกิเลส บุคคลประเภทนี้ ชื่อว่ามีความเห็นผิดเป็น “มิจฉาทิฏฐิ” 46 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More