ข้อความต้นฉบับในหน้า
การที่ศิษย์จะสามารถนำความรู้ไปใช้โดยไม่ผิดพลาด ก็เพราะได้รับการฝึกหัดอบรม และมี
ประสบการณ์ในศิลปวิทยาที่ตนศึกษาเป็นอย่างดี เช่น ถ้าเป็นแพทย์ก็ต้องไม่วินิจฉัยโรคผิด ไม่สั่งยาผิด
ถ้าเป็นวิศวกรโยธา ก็ต้องคิดคำนวณโครงสร้างไม่ผิด เป็นต้น
ส่วนการนำความรู้ด้านศิลปวิทยาไปใช้ในทางผิด ก็เพราะศิษย์ไม่มีสัมมาทิฏฐิ ซึ่งอาจจะเป็น
เพราะไม่เคยได้รับการปลูกฝังอบรมความรู้ทางธรรมจากครูอาจารย์เลย หรืออาจจะเคยได้รับแล้ว แต่
สัมมาทิฏฐิยังไม่เข้าไปอยู่ในใจของศิษย์ จึงทำให้ศิษย์นำความรู้ไปใช้ในทางผิด ด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ เช่น
เป็นผู้รักษากฎหมาย ก็รับส่วยจากพวกนอกกฎหมาย จึงเป็นเหตุให้กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนจึงพากันทำ
ผิดกฎหมายอยู่เนืองๆ เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าศิษย์มิได้นำความรู้ที่เล่าเรียนไปใช้ผิดพลาด หรือไปใช้ในทางที่ผิด ก็ถือว่าครู
อาจารย์ได้จัดการป้องกันในทิศทั้งหลายให้แก่ศิษย์แล้ว
จากหน้าที่ทั้ง 5 ประการของทิศเบื้องหน้านี้ นักศึกษาคงจะเห็นแล้วว่า หน้าที่สำคัญของครู
อาจารย์คือ การปลูกฝังถ่ายทอดความรู้ทั้งทางธรรม และทางโลกให้ศิษย์ทั้งมวล ถ้าครูอาจารย์ทุกคนได้
ทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์ ศิษย์ทั้งมวลย่อมเป็นคนดีโดยถ้วนหน้า
ด้วยเหตุนี้ครูอาจารย์ทุกท่าน ไม่ว่าจะมีหน้าที่สอนวิชาอะไร ในระดับชั้นใดก็ตาม จำเป็นต้องมี
ความรู้ความเข้าใจหลักธรรมสำคัญ อันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี การที่ครูอาจารย์จะเกิดความ
รู้ความเข้าใจดังกล่าว จำเป็นต้องศึกษาพระธรรม ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติตามสมควร
การศึกษาพระพุทธศาสนาให้เกิดประสิทธิผล โดยวิธีลัด ก็จำเป็นต้องศึกษากับพระภิกษุสงฆ์
ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมอย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อที่จะให้บรรดาครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษา ได้รับความรู้
ทางธรรมถึงขั้นมีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจ สถาบันการศึกษาต่างๆ จำเป็นต้องขอความอนุเคราะห์จาก
สถาบันสงฆ์อย่างต่อเนื่อง
หน้าที่ของศิษย์ที่พึงปฏิบัติต่อทิศเบื้องขวา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำหนดหน้าที่ให้เป็นอริยวินัยของศิษย์ ที่ต้องปฏิบัติต่อครูอาจารย์
เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อทิศเบื้องขวาของตนให้ดูเป็นตัวอย่าง ๕ ประการดังนี้
1) ลุกขึ้นยืนรับ
2) เข้าไปยืนคอยต้อนรับ
3) เชื่อฟัง
4) ปรนนิบัติรับใช้
5) เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ
บทที่ 4 ผู้ลิขิต ชี วิ ต ค น ดี ที่ โ ล ก ต้ องการ
DOU 157