ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตนแล้ว ได้ใช้จ่ายเลี้ยงคนที่ควรเลี้ยงแล้ว ได้ผ่านพ้นภัยที่เกิดขึ้นแล้ว ได้ทำนุบำรุงพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี
ปฏิบัติชอบแล้ว เมื่อเราปรารถนาโภคทรัพย์ เพื่อประโยชน์อันใด ประโยชน์นั้นเราก็ได้บรรลุแล้ว เราได้ทำ
ในสิ่งที่ไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว บุคคลเช่นนี้ย่อมชื่อว่าเป็นผู้ดำรงอยู่ในธรรมของพระอริยเจ้า บัณฑิตทั้งหลาย
ย่อมสรรเสริญเรา นั่นคือเขาได้บรรลุเป้าหมายชีวิตระดับต้นแล้ว เมื่อเขาละจากโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิง
ใจในสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน
เกี่ยวกับการใช้ทรัพย์เป็นนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า จะต้องบริหารหรือใช้ทรัพย์ที่เป็น “รายเหลือ”
ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ด้วยการทำจากสัมปทาในรูปแบบต่างๆ บุคคลยิ่งสามารถทำจากสัมปทาได้มากเท่าใด
นอกจากจะมีความสุขใจอย่างแน่นอนในปัจจุบันแล้วยังสามารถปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิตได้ทั้งระดับต้น
และระดับกลางอีกด้วย
3.2.5 เครือข่ายกัลยาณมิตร คือกุญแจไขไปสู่ความสำเร็จทั้งปวง
ก่อนอื่นต้องขอทบทวนความเข้าใจนักศึกษาอีกครั้งหนึ่งว่าคำว่าเครือข่ายกัลยาณมิตรของเรานั้น
ต้องประกอบด้วยคุณลักษณะสำคัญอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1. ตัวเราเองต้องเป็นคนดีมีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคงคือมีคุณสมบัติของกัลยาณมิตร
หรือมีความเป็นมิตรแท้อย่างสมบูรณ์พร้อม
2. กัลยาณมิตรในเครือข่ายแต่ละคนก็ต้องเป็นคนดีมีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง หรือ
ถ้ายังไม่มั่นคง ก็ต้องรู้จักตัวเอง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนให้มีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง ด้วย
การพยายามซึมซับคุณความดีจากกัลยาณมิตรในเครือข่ายคนดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
3. ต้องร่วมกันทำกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและสังคม เพื่อประโยชน์ให้แก่สังคม เพื่อ
พัฒนาเครือข่ายกัลยาณมิตรให้แข็งแกร่ง เพื่อขยายเครือข่ายกัลยาณมิตรให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ และ
เพื่อพัฒนาสัมมาทิฏฐิในใจของกัลยาณมิตรแต่ละคนให้แก่รอบยิ่งขึ้น
ถ้านักศึกษาย้อนกลับไปดู อุ - อา - ก - ส ซึ่งอธิบายจบ ไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง ย่อมจะเห็นว่า
เครือข่ายกัลยาณมิตรมีบทบาทสำคัญที่สุด ต่อทั้ง 3 หัวข้อ คือ อุ - อา - ส
กล่าวคือ ในหัวข้อ “หาเป็น” หรือ “อุฏฐานสัมปทา” นั้น ถ้าสังคมเต็มไปด้วย “คนตาเดียว”
ขาดแคลนผู้มีลักษณะนิสัย “กัลยาณมิตร” ผู้คนในสังคมย่อมไม่มีทางประกอบอาชีพอย่างสุจริตได้เลย ตัวอย่าง
ที่เห็นได้ชัดเจนในสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมานี้ก็คือ ทั้งๆ ที่ผู้คนโดยทั่วไปประจักษ์แจ้งแก่ใจแล้วว่าการค้ายา
เสพติดให้โทษ เป็นงานผิดศีลธรรม และกฎหมาย มีโทษร้ายแรงตามกฎหมายถึงขั้นประหารชีวิต และริบ
ทรัพย์สมบัติ แต่ก็มีผู้คนมากมายพากันเข้าไปสู่อาชีพนี้ ราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ฉะนั้น
นี่คือเหตุผลที่แสดงว่า “การหาเป็น” จะเกิดขึ้นได้จริงก็เฉพาะในสังคมที่มีเครือข่าย
กัลยาณมิตรเท่านั้น มิฉะนั้นการหาก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ ประการหนึ่ง หรือถ้าประสบผลสำเร็จ
บทที่ 3 ความยั่งยืน แห่ง คุณ สมบัติ ข อ ง ค น ดี DOU 117