ประเภทของภรรยาในพระธรรมเทศนา GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 175
หน้าที่ 175 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายถึงภรรยา 7 ประเภทตามพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ ซึ่งแบ่งเป็นภรรยาทุศีล และภรรยาผู้ตั้งมั่นในศีล โดยภรรยาประเภทแรกจะนำไปสู่ความทุกข์ในชีวิตหลังความตาย ขณะที่ประเภทหลังจะมีโอกาสเข้าถึงสุคติได้ การเลือกคู่ครองควรพิจารณาศีลและคุณธรรมของกันและกันอย่างรอบคอบ เพื่อให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขและยั่งยืน นอกจากนี้ บทความยังยกตัวอย่างเช่น นางสุชาดาที่เคารพและเลือกที่จะเป็นภรรยาที่มีศีล.

หัวข้อประเด็น

-ประเภทภรรยา
-ศีลธรรมในชีวิตคู่
-ผลกระทบของพฤติกรรมครอบครัว
-การเลือกคู่ครองที่มีคุณธรรม
-การสร้างสังคมที่ดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3) ภรรยาเสมอด้วยนาย (อัยยาภริยา) คือ ภรรยาที่เกียจคร้านในการทำงาน คอยแต่จะ กล่าวคำหยาบ ข่มขี่สามีผู้ขยันทำมาหากิน 4) ภรรยาเสมอด้วยแม่ (มาตาภริยา) คือ ภรรยาที่ปฏิบัติต่อสามีเสมือนดูแลบุตรและรักษา ทรัพย์ที่สามีหามาได้เป็นอย่างดี 5) ภรรยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาว (ภคินีภริยา) คือ ภรรยาที่มีความเคารพนับถือสามีของ ตน และอนุโลมตามความคิดเห็นของสามีเสมอ 6) ภรรยาเสมอด้วยเพื่อนผู้จากไปนานแล้วกลับมา (สุขีภริยา) คือภรรยาที่ปฏิบัติต่อสามี ด้วยความชื่นชมยินดีเสมอไม่มีการแสดงกิริยาวาจากระแทกกระทั้น กระทบกระเทียบให้สามีรู้สึกระคายเคือง 7) ภรรยาเสมอด้วยทาส (ทาสีภริยา) คือ ภรรยาที่มีความอดทนสูง เมื่อถูกสามีขู่ตะคอก หรือ ทุบตีก็ไม่โกรธตอบ เมื่อตรัสเรื่องภรรยา 7 ประเภทจบลงแล้ว พระพุทธองค์ทรงสรุปว่า ภรรยา 3 ประเภทแรก จัดอยู่ในประเภทคนทุศีล ขาดความเอื้อเฟื้อ ดังนั้นเมื่อตายไปย่อมเข้าถึงนรก ส่วนภรรยา 4 ประเภทที่เหลือ เป็นผู้ตั้งอยู่ในศีล ถนอมรักไว้ยั่งยืน เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติ ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนาจบลงแล้ว นางสุชาดาจึงกราบทูลพระพุทธองค์ว่า “ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า โปรดทรงจำหม่อมฉันว่าเป็นภรรยาเสมอด้วยทาสี” จากเรื่องภรรยา 7 ประเภท ย่อมเห็นได้ว่า สาระสำคัญของเรื่องนี้มีอยู่ 5 ประเด็น คือ ภรรยา ทุศีล กับภรรยาผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีล ดังนั้น ถ้าจะมองกลับไปในฝ่ายสามีบ้าง ก็คงจะมีอยู่ 2 ประเภทเหมือนกัน คือสามีทุศีล กับ สามีผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีล เพราะฉะนั้น ในการเลือกคู่ครอง ต่างฝ่ายต่างต้องใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องศีลของกันและกัน ให้ละเอียดรอบคอบ และควรจะฟังเสียงทักท้วงของผู้ใหญ่ที่หวังดีด้วย มิใช่ปล่อยจิตใจให้ตกเป็นทาสของ กามารมณ์ คิดแต่เพียงว่า “รักกันหนา พากันหนี” บุคคลที่มีศีล ย่อมหวังได้ว่าเขาจะเป็นคนดีมีธรรมะด้วย แม้เขาจะมีสัมมาทิฏฐิยังไม่ครบถ้วนบริบูรณ์นัก แต่ถ้าได้ใกล้ชิดกับกัลยาณมิตร เขาก็จะสามารถพัฒนา ตนเองให้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคงถาวรได้ ผู้ที่มีหลักในการเลือกคู่ครองเช่นนี้ ย่อมประสบความสุขความเจริญในชีวิตครอบครัว ขณะ เดียวกันบุตรธิดาก็จะสืบทอดมรดกแห่งคุณธรรมนี้ต่อไปอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีโอกาสบรรลุเป้าหมาย ชีวิตทั้งระดับต้น และระดับกลางอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้น สภาวะของภรรยาเสมอด้วยทาส ย่อมไม่เกิดขึ้นในครอบครัว เพราะต่างฝ่ายต่างมี สัมมาทิฏฐิมั่นคงอยู่ในใจ ย่อมไม่แสดงพฤติกรรมทุศีลให้ปรากฏออกมา 160 DOU สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More