ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของตนเอง รู้ชัดถึงเหตุแห่งสุขและทุกข์ จึงเกิดความเข้าใจถูก จึงคิดจะทำแต่กรรมดี ละกรรมชั่วทุกอย่าง
แล้วตั้งใจเจริญภาวนาเพื่อให้ใจสว่างโพลงยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา เพื่อไม่ให้กิเลสได้โอกาสออกฤทธิ์เลย นี้
คือความหมายของ “ปัญญาสัมปทา” ซึ่งมุ่งชำแรกกิเลส เพื่อให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
อย่างไรก็ตาม การเจริญภาวนาเพื่อบรรลุผลในลำดับที่ 3 (3.3) อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ
ฆราวาส ซึ่งยังต้องมีภาระหนักอยู่กับการทำมาหากิน และการดูแลรับผิดชอบครอบครัว แต่ประสบการณ์
ในการเจริญภาวนา แม้เพียงในลำดับที่ 2 (3.2) เมื่อผู้ปฏิบัติมีใจประภัสสร ใสสว่าง ก็จะเกิดปัญญา สามารถ
ตรอง เห็นถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของการมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา มองเห็นคุณค่าของการสร้างกรรมดี
อันประกอบด้วย การทำทาน การรักษาศีล และการทำภาวนา เมื่อปฏิบัติกิจกรรม เหล่านี้จนเป็นนิสัย แม้
ยังไม่สามารถบรรลุประสบการณ์ในลำดับที่ 3 ได้ ก็เกิดปัญญาฝึกอบรมตนให้สร้างแต่กรรมดีได้อย่างมั่นคง
มีใจผ่องใสอยู่เป็นนิจ ซึ่งจะเป็นหลักประกันมั่นคงว่า จะได้ไปสู่สุคติในปรโลกอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ คือหลักการโดยย่อของการเตรียมความพร้อม อย่างถูกต้องเพื่อไปสู่โลกหน้า ที่มี
ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า “การเตรียมตัวตายให้ถูก” ก็ได้ เป็นเรื่องที่ทุก
คนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะต้องเตรียมให้พร้อมไว้ เพราะแท้ที่จริงนั้นอายุขัยของคนเราจะยืนยาวอยู่เพียงแค่
ช่วงลมหายใจเข้า ออก เท่านั้น ถ้าหายใจเข้าแล้วไม่ออก หรือหายใจออกแล้วไม่เข้า ก็ตายทันที ถ้าไม่
เตรียมให้พร้อมไว้โอกาสที่จะไปสู่ทุคติย่อมมีมาก
ในคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวว่า มีผู้คนจำนวนมากที่มีปัญญามืดบอดด้วยอำนาจกิเลสใน
กมลสันดาน เห็นว่า “โลกหน้า ไม่มี” คือตายแล้วสูญ ชีวิตของคนเราสุดสิ้นที่เชิงตะกอน หรือ หลุมฝังศพ
เท่านั้น ความเห็นผิดเช่นนี้ จัดเป็น “มิจฉาทิฏฐิ” ในทางกลับกัน กลุ่มบัณฑิตมีใจผ่องใส เห็นด้วยปัญญา
ของตนว่า “โลกหน้ามี” คือมีโลกหน้าจริง ตายแล้วไม่สูญ และมีความไม่แน่นอน คืออาจไปสู่ทุคติ
หรือสุคติก็ได้ ความเห็นถูกเช่นนี้จัดเป็น “สัมมาทิฏฐิ”
สรุป
สาระสำคัญเกี่ยวกับเรื่องโลกหน้าก็คือ ความเห็นที่ว่า “ตายแล้วไม่สูญ ต้องเกิดใหม่อีก” เป็น
เรื่องสภาพใจของคนที่มีศรัทธามั่นในเรื่อง “การเวียนว่ายตายเกิด” กล่าวคือ ตราบใด ที่ยังไม่หมดกิเลส
ทุกชีวิตเมื่อตายแล้วจะต้องไปเกิดใหม่ มีชีวิตหลังความตายต่อไปอีก จะเกิดเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ขึ้นอยู่กับ
กรรมดีหรือกรรมชั่ว บุญหรือบาป ที่ตนสั่งสมไว้ขณะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ถ้าสั่งสมบุญไว้มาก ย่อมไปสู่สุคติ
อันได้แก่ พรหมโลก โลกสวรรค์ และมนุษยโลก ถ้าสั่งสมบาปไว้มาก ย่อมไปสู่ทุคติ หรืออบาย อันได้แก่
นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์ดิรัจฉาน การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏอันหาจุดจบมิได้นี้ มีกรรมดี
และกรรมชั่วของเราเองชิงช่วงกันจัดสรรโอกาสให้เรา
บุคคลที่ศรัทธามั่นในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ แล้วตั้งใจทำแต่กรรมดี เพื่อ
สั่งสมบุญกุศลเตรียมไว้ในโลกหน้าอย่างเต็มที่ ชื่อว่ามีความเห็นถูกเป็น “สัมมาทิฏฐิ” มีความรับผิดชอบ
40 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก