ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 4
ผู้ลิขิตชีวิตคนดีที่โลกต้องการ
คุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการ
จาก 3 บทที่ผ่านมา ได้กล่าวแล้วว่า บุคคลที่จะมีคุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการนั้น ต้อง
เริ่มจากการมีคุณสมบัติพื้นฐาน คือสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคงถาวร ถึงขั้นที่เป็นลักษณะนิสัย
ประจำใจประจำตัวทีเดียว คุณสมบัติพื้นฐานนี้เองจะเป็นรากฐานให้เกิดความเจริญงอกงามของคุณสมบัติ
อย่างอื่นๆ ของคนดีที่โลกต้องการตามมาอีก ที่สำคัญก็คือ ความสำนึกรับผิดชอบ 4 ประการ ดังได้กล่าว
แล้ว และความสำนึกรับผิดชอบนี้เอง ที่จะพัฒนางอกงามเป็นลักษณะนิสัยความรับผิดชอบในด้านต่างๆ
ที่ละเอียดแยกย่อยต่อไป ตลอดจนพฤติกรรมของมิตรแท้ คนดี หรือกัลยาณมิตร และนักสร้างบุญบารมี
อย่างไรก็ตาม แม้บุคคลที่ได้ชื่อว่า มิตรแท้ หรือกัลยาณมิตร ก็ใช่ว่าแต่ละคนจะกอปรด้วยคุณ
ความดีเท่าเทียมเสมอเหมือนกันหมดทุกประการ ทั้งนี้ก็เพราะแต่ละคนยังมีความรู้ ความสามารถ ความถนัด
ประสบการณ์ชีวิต ตลอดจนการปลูกฝังอบรมบ่มนิสัยจากครอบครัวมาตั้งแต่ยังเป็นทารกแตกต่างกันออก
ไปอีกมาก ถ้าจะใช้ภาษาธรรมะ ก็อาจกล่าวได้ว่า กัลยาณมิตรแต่ละคนแต่ละท่านมีคุณความดีแตกต่างกัน
ไปตาม การอบรมสั่งสมบุญบารมีของตนนั่นเอง
ดังมีตัวอย่างพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ซึ่งล้วนสามารถ ปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรต่อชาว
โลกทั้งสิ้น ทว่าแต่ละองค์ก็ทรงไว้ซึ่งคุณความดีแตกต่างกันออกไป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ทรงสถาปนา
พระมหาสาวกแต่ละองค์ ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ คือผู้เลิศด้วยคุณวิเศษแตกต่างกันไป เช่น ทรงสถาปนา
พระมหากัสสปะเถระไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะในทางถือธุดงค์ และทรงสถาปนาพระกุมารกัสสปเถระไว้ใน
ตำแหน่งเอตทัคคะในทางแสดงธรรมวิจิตร เป็นต้น
4.1 หลักการปลูกฝังคุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการ
มิจฉาทิฏฐินั้นเปรียบได้กับวัชพืช เพราะไม่ต้องปลูกฝังก็สามารถงอกงามขึ้นได้เอง และเป็น
เหตุปัจจัยให้คนเราคิดผิด พูดผิด ทำผิด มีอาชีพผิด หรือทำบาปทำชั่วได้สารพัด เป็นคนชั่วโดยไม่ต้องได้
รับการปลูกฝังอบรม
ส่วนสัมมาทิฏฐิซึ่งเป็นเหตุปัจจัยให้คนเราคิดถูก พูดถูก ทำถูก มีอาชีพถูก ตลอดจนสร้างคุณ
งามความดีและบุญกุศลต่างๆ ถูกต้องนั้น ยากนักหนาที่จะเกิดขึ้นได้เองโดยไม่มีการอบรมปลูกฝังชี้แนะกัน
ดังนั้นคนเราทุกคน นับตั้งแต่ลืมตามาดูโลก จำเป็นต้องได้รับการอบรมปลูกฝังสัมมาทิฏฐิอย่างจริงจัง
132 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก