ข้อความต้นฉบับในหน้า
ไม่ร่วนซุยเพราะขาดรากไม้ ถ้ามีรากไม้อยู่ใต้ดิน รากไม้เหล่านั้น ย่อมจะช่วยดูดน้ำ ส่งขึ้นไปเก็บไว้ตาม
ลำต้นและใบ แล้วพ่นระเหยไปในอากาศ ทำให้เกิดความชุ่มชื้นในอากาศ เป็นต้น
กล่าวได้ว่ามนุษย์เราโดยทั่วไป ยังไม่เคยมีความรู้ว่า บุญ บาปที่คนเราก่อขึ้นนั้นมีผลกระทบ
ถึงบนฟากฟ้า ดังที่มีผู้รู้บางท่านกล่าวว่า “เมื่อเด็ดดอกไม้ก็กระเทือนถึงดวงดาว” ครั้นแล้ว ผลกระทบนั้น
ก็ย้อนกลับมาที่เราอีก
โดยสรุปก็คือ ความวิบัติต่างๆ ของดินฟ้าอากาศล้วนมีเหตุมาจากบาปที่คนเราพากันก่อขึ้น ส่วน
ดินฟ้าอากาศที่อยู่ในสภาพที่ดี มีฝนตกตามฤดูกาล ย่อมมีเหตุมาจากบุญที่คนเราต่างช่วยกันสรรค์สร้างขึ้น
ความเข้าใจที่ว่าดวงเดือนและดวงดาวมีอำนาจกุมชะตาชีวิตมนุษย์นั้น ล้วนเป็นความเข้าใจที่
ไม่ถูกต้อง เพราะแท้ที่จริง มนุษย์ต่างหากที่ทำให้การโคจรของดวงเดือนดวงดาววิปริตผิดปกติไป โดยที่ยัง
ไม่เคยมีผู้ใด หรือมีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ สำหรับตรวจให้รู้ได้ ยกเว้นญาณทัศนะของพระสัมมาสัม
พุทธเจ้า
ด้วยเหตุนี้การศึกษาพระพุทธศาสนาให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น และ
ถ้าได้นำความรู้ในพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ควบคู่กับวิทยาการสมัยใหม่ ย่อมจะอำนวยให้เกิด
ประโยชน์กว้างขวางยิ่งขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ความรู้จากพระสูตรนี้ย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ลิขิตชีวิตมนุษย์ก็คือ
ผู้คนในสังคมของเรานั่นเอง ไม่ใช่เทพผู้วิเศษใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้านักศึกษายังมีความสงสัยหรือไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ อาจลองจินตนาการดูก็ได้ว่า ถ้า
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพร้อมใจกันพาดหัวหน้า 1 ประณามให้ร้ายผู้นำรัฐบาลทุกๆ วัน แม้ว่าคำให้ร้ายเหล่า
นั้นจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม เพียงไม่เกิน 10 วัน นักศึกษาคิดว่าประเทศไทยจะประสบชะตากรรมอย่างไร
สำหรับตัวผู้นำนั้นคงไม่ต้องสงสัยว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติ และศักดิ์ศรีได้อย่างไร ไม่ว่าใน
ประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
สิ่งแรกที่จะถูกกระทบกระเทือนอย่างรวดเร็วก็คือเศรษฐกิจของประเทศ เพราะผู้คนจะตกอก
ตกใจกันทั้งประเทศ ตลาดหุ้นคงจะอยู่ในสภาพดิ่งลงเหวทีเดียว บรรดาลูกค้าธนาคารก็คงจะพากันไปถอนเงิน
อย่างโกลาหล นานาประเทศต่างก็จะหมดความเชื่อมั่นในประเทศไทย นั่นย่อมหมายถึงความเดือดร้อน ด้าน
เศรษฐกิจของคนไทยทั้งประเทศด้วย ต่อจากนั้นก็จะเกิดปัญหาเลวร้ายต่างๆ ตามมาเป็นลูกโซ่
จากกรณีสมมุตินี้ นักศึกษาคงพอจะจินตนาการออกว่า ผู้ลิขิตชะตาชีวิตผู้คนในสังคม ก็คือผู้
อยู่ร่วมสังคมกับเรานั่นเอง สำหรับกรณีนี้เป็นเรื่องของผู้คนในสังคมโดยรวม แต่กรณีที่เป็นเรื่องในวงแคบ
ลงไปก็คือสังคมของทิศ 6 ดังได้กล่าวแล้วว่าผู้ลิขิตชะตาชีวิตของตัวเราแต่ละคนก็คือทิศ 6 ของเรานั่นเอง
บ ท ที่ 6 บ ท ส รุ ป DOU 239