การปฏิรูปมนุษย์และความเข้าใจโลก GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 46
หน้าที่ 46 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นว่า การเกิดเป็นมนุษย์ถือเป็นความโชคดีจากเหล่าเทวดา แต่การที่คนเขายึดเอาโลกนี้เป็นที่สร้างกรรมชั่วนั้นเกิดจากความโง่เขลาของตนเอง การมีความเข้าใจโลกจะทำให้คนเกิดปัญญาในการปรับปรุงตนเอง เมื่อรู้ว่านิสัยไม่ดีจะต้องขจัดไป เกิดความรับผิดชอบในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จึงจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนตนเองให้มีนิสัยดีและสร้างกรรมดีตามหลักกุศลกรรมบถ 10 เพื่อเก็บเกี่ยวบุญในระยะยาว เป็นการวางรากฐานให้กับชีวิต โดยที่หากไม่เข้าใจโลกก็จะนำไปสู่การก่อกรรมชั่วและความทุกข์ต่างๆ ในชาตินี้

หัวข้อประเด็น

-การเกิดเป็นมนุษย์
-ความตาย
-กรรมดีและกรรมชั่ว
-การพัฒนานิสัย
-ความรับผิดชอบในความเป็นมนุษย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

“ภิกษุทั้งหลาย การเกิดเป็นมนุษย์ ชื่อว่าเป็นการไปเกิดในภูมิที่ดี ของเทวดา การที่เทพบุตร ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ แล้วได้ความศรัทธาในธรรม วินัยที่ตถาคตประกาศไว้ นี้ชื่อว่า เป็นการได้ลาภอันดีของเทวดา....” อย่างไรก็ตาม บุคคลที่ยึดเอาโลกนี้เป็นเวทีสร้างกรรมชั่วต่างๆ นั้น น่าสงสารยิ่งนัก เขาทำ เช่นนั้นก็เพราะความโง่เขลาของเขานั่นเอง นิสัยสันดานเช่นนี้แหละ เป็นสิ่งที่จะต้องปฏิรูปกันให้ได้ 4) โลกนี้มีเวลาจำกัด คือมีความตายเป็นตัวจำกัด เวลาในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ของคนเรา แม้ยุคนี้อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์จะอยู่ที่ประมาณ 75 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับภพภูมิอื่น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีอายุยืนยาวถึง 75 ปี บางคนก็ตายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก บางคนเมื่อย่างวัยกลางคนก็หมด อายุขัยเสียแล้ว กล่าวได้ว่า ความตายเป็นของแน่นอนสำหรับทุกคน ไม่มีใครสามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ แต่วันเวลา แห่งความตายของแต่ละคนไม่แน่นอนเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมชั่วของแต่ละคนทั้งในอดีตชาติและปัจจุบัน ชาติ กรรมชั่วในอดีตที่มีผลทำให้คนเราอายุสั้นก็คือ การทำผิดศีลปาณาติบาตเป็นหลัก นอกจากนี้ กรรมชั่ว ที่คนเราทำด้วยความประมาทในปัจจุบัน เช่น การขับรถเร็วมาก การดื่มสุราเมาแล้วขับรถ เป็นต้น ก็เป็น สาเหตุให้คนเราอายุสั้นได้อีกเช่นกัน ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง “โลกนี้” ความเข้าใจเรื่องโลกนี้ทั้ง 4 ประการดังกล่าว จะสามารถช่วยทำให้คนเราเกิดปัญญาคิดสำรวจ และปรับปรุงตนเอง เมื่อพบนิสัยสันดานไม่ดีในตน พวกเขาก็จะคิดขจัดให้หมดไป เพราะเกิดความสำนึก รับผิดชอบในศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนขึ้นมาเป็นอันดับแรก จึงคิดปฏิรูปตนนั่นเอง ครั้นแล้ว ก็จะพยายามพัฒนานิสัยดีๆ ขึ้นมาแทน ด้วยการสร้างแต่กรรมดีตามหลักกุศลกรรมบถ 10 ขณะเดียวกันก็ งดเว้น หรือหลีกห่างจากอบายมุขทั้งปวง เมื่อปฏิบัติแต่กรรมดีจนเป็นนิสัยเข้าไปอยู่ในใจ สันดานไม่ดีอันเนื่องมาจากกิเลสในใจก็จะ หมดโอกาสแสดงฤทธิ์ ยิ่งถ้าอยู่ในแวดล้อมของคนดี บัณฑิต กัลยาณมิตร ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่าง ต่อเนื่องข้ามภพข้ามชาติ ก็จะสามารถสั่งสมบุญกุศลได้มากขึ้นๆ ถึงขั้นเป็นบารมี ดุจเดียวกับการสร้างบารมี ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งในที่สุดกิเลสที่แอบแฝงอยู่ในกมลสันดาน ก็จะฝ่อไปโดยปริยาย เฉกเช่น เมล็ดพืชที่ถูกเก็บไว้ในที่แห้งนานปีจนหมดยางเหนียว ย่อมไม่สามารถงอกสืบพืชพันธุ์อีกต่อไปได้ ข้อนี้ ฉันใดก็ฉันนั้น นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง “โลกนี้” ในทางตรงข้าม ถ้าคนเราไม่เข้าใจเรื่อง “โลกนี้” ก็จะประพฤติตนไปตามอำนาจกิเลส ครั้น นานไปก็จะมีนิสัยสันดานชอบก่อกรรมทำชั่วเป็นอาจิณ ซึ่งบางคนก็อาจจะต้องประสบความทุกข์ความ เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ตั้งแต่ในชาตินี้แล้ว แต่บางคนที่ยังมีบุญเก่า คือวิบากแห่งกรรมดีในอดีตชาติยัง บ ท ที่ 1 แ น ว คิ ด ใ น ก า ร ป ฏิรูป มนุษย์ DOU 31
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More