ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยิ่งถ้าคนไม่ดีมีเจตนามุ่งมั่นสร้างเครือข่ายด้วยแล้ว เพียงแค่ใช้การประชาสัมพันธ์แบบ
กระซิบกระซาบกันจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง ในยุคการสื่อสารแบบไร้พรมแดนดังเช่นปัจจุบันนี้แล้ว ใน
เวลาเพียงสองสามวัน เครือข่ายคนเลวก็จะแผ่ขยายไปได้รวดเร็ว ไม่แพ้ไฟลามทุ่ง
นักศึกษาย่อมทราบดีแล้วว่า คนไม่ดีก็คือ ผู้ที่มีความเห็นผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ หรือเป็นประเภท
คนตาบอด กับคนตาเดียวนั่นเอง เป็นคนไร้ศีลธรรม ไร้หิริโอตตัปปะ เพราะเขาไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อ
เรื่องนรกสวรรค์ เป็นนักวัตถุนิยม และบริโภคนิยม จึงมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ และความร่ำรวยด้วยความ
เห็นแก่ตัว
คนไม่ดีที่คบกันได้ ก็เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แบ่งผลประโยชน์กันได้ด้วยความยินยอม ถ้า
ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กันเมื่อใด ก็อาจถึงต้องฆ่ากัน
ขอให้นักศึกษาลองตรองดูว่าในหมู่บ้าน ชุมชน หรือ สังคม มีเครือข่ายคนไม่ดีอยู่ทั่วไป นักศึกษา
จะยืนหยัดเป็นคนดีได้สำเร็จหรือไม่ ถ้านักศึกษาเป็นนักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ นักศึกษาจะหาคน
ประเภทสองตามาเป็นหุ้นส่วน หรือคู่ค้าได้จากที่ไหน และถ้านักศึกษาถูกคนตาเดียวเอารัดเอาเปรียบอยู่
รอบข้างสัมมาทิฏฐิที่เคยเข้าไปอยู่ในใจของท่านจะมั่นคงต่อไปได้อีกนานสักเท่าไร และถ้านักศึกษาปรับเปลี่ยน
ความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิเหมือนผู้คนที่แวดล้อมอยู่ ปรับเปลี่ยนการทำงานแบบสุจริตมาเป็นทุจริตเหมือน
ผู้คนในเครือข่าย นักศึกษาก็อาจจะประสบความร่ำรวย ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน สามารถบรรลุ
เป้าหมายชีวิตระดับต้นได้อย่างแน่นอน แต่นักศึกษาจะมีโอกาสบรรลุเป้าหมายชีวิตระดับกลางได้หรือ
ณ จุดนี้นักศึกษาคงได้คำตอบแล้วว่า ทำไมจึงต้องเร่งสร้างเครือข่ายคนดีขึ้นในสังคมให้ได้
การสร้างเครือข่ายคนดี มีหลักการและวิธีปฏิบัติ อย่างไร
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหลักการ และวิธีปฏิบัติในการสร้างเครือข่ายคนดีไว้ในหลาย
พระสูตร แต่ละพระสูตรอาจจะมีรายละเอียดในการปฏิบัติแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่หลักการย่อมเหมือนกัน
ต่อไปนี้เป็นหลักการและวิธีปฏิบัติในการสร้างเครือข่ายคนดีที่พระพุทธองค์ตรัสแสดงไว้ใน มหานามสูตร
1. ตัวเราเองต้องเป็นคนดี โดยยึดพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งตลอดกาล
2. ตัวเราเองต้องรักษาศีล 5 ได้บริสุทธิ์บริบูรณ์อยู่เป็นนิตย์
3. ตัวเราเองต้องปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลตนเอง ด้วยการถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศีล และจาคะ การ
ปฏิบัติ 3 ประการนี้ ย่อมมีผลต่อการบรรลุเป้าหมายชีวิตระดับกลางด้วย นอกจากนี้ก็ยังจะต้องขวนขวาย
หาเวลาเข้าวัดเพื่อฟังธรรม พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ได้ฟังมานั้น ให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง (มิใช่
ฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา) แล้วนำมาปฏิบัติสมควรแก่ธรรม คือปฏิบัติธรรมอันเป็นพื้นฐานแห่งการ
บรรลุธรรมขั้นสูงยิ่งๆ ขึ้นไปอีก การปฏิบัติตามนัยนี้ก็คือการทุ่มเทเจริญสมาธิภาวนาเป็นประจำ แล้ว
- อัง, อัฏฐก. มจร. 23/25/268
บทที่ 3 ความยั่งยืน แห่ง คุณสมบัติ ข อ ง ค น ดี DOU 111