ข้อความต้นฉบับในหน้า
2.2 ความจําเป็นในการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิให้มั่นคง
ทำไมจึงต้องปลูกฝังสัมมาทิฏฐิให้เกิดเป็นลักษณะนิสัย
บุคคลที่มีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคงถาวร จนเกิดเป็นลักษณะนิสัย ย่อมเกิด
ปัญญาเข้าใจกฎแห่งกรรมเป็นอย่างดี จึงมองเห็นโทษของการทำผิดศีล การมีอคติ การเข้าไป
เกี่ยวข้องพัวพันกับอบายมุข ขณะเดียวกันก็มองเห็นคุณค่า และความสำคัญของบุคคล และสิ่ง
แวดล้อมเป็นอย่างดี เมื่อตระหนักถึงโทษ และคุณค่าของสิ่งต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ก็จะเป็นผลให้บุคคลนั้น
1. ตั้งสติได้มั่นคง ไม่ยอมให้มิจฉาทิฏฐิย้อนกลับมาครอบงำจิตใจอีก
2. พยายามพัฒนาความสำนึกรับผิดชอบให้เพิ่มพูนในจิตใจยิ่งขึ้น ไม่ยอมพอใจหยุดยั้งแต่
เพียงที่มีอยู่เดิมเท่านั้น นี่คือ เหตุผลว่าทำไมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังสัมมาทิฏฐิให้เข้าไปอยู่ในใจ
ของทุกๆ คน ให้ยิ่งๆ ขึ้นไปจนเกิดเป็นลักษณะนิสัยประจำตัวอย่างมั่นคงถาวรต่อไป
2.3 สัมมาทิฏฐิ คือปัจจัยหลักซึ่งก่อให้เกิดความสำนึกรับผิดชอบ
สัมมาทิฏฐิจะมีศักยภาพในการพัฒนาบุคคลให้เกิดความสำนึกรับผิดชอบด้านใดบ้าง
ความสำนึกรับผิดชอบซึ่งจะสามารถพัฒนาขึ้นในจิตใจบุคคล โดยมีพื้นฐานมาจากสัมมาทิฏฐิ
ที่เข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคงถาวร อาจแบ่งออกได้เป็น 4 ประการ คือ
1. ความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง
2. ความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของผู้อยู่ร่วมสังคม
3. ความสำนึกรับผิดชอบต่อศีลธรรมทางเศรษฐกิจ
4. ความสํานึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
2.3.1 ความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง
บุคคลที่มีความสำนึกรับผิดชอบประการที่ 1 นี้ มีความคิดเห็น และพฤติกรรมอย่างไร
บุคคลที่มีความสำนึกรับผิดชอบประการที่ 1 นี้ มีความคิดเห็นถูกว่า การปล่อยตัวปล่อยใจให้
ทำอะไรตามอำนาจของกิเลสที่เรียกว่ากรรมกิเลส 4 ไม่ว่าประการใดประการหนึ่ง หรือ ทั้ง 4 ประการ ย่อม
มิใช่พฤติกรรมของมนุษย์ผู้มีใจสูง ใครก็ตาม ที่ประพฤติกรรมกิเลส 4 ย่อมหมดศักดิ์และศรีแห่งความเป็น
มนุษย์ กลายเป็นมนุษย์ที่ตกอยู่ใต้อำนาจมิจฉาทิฏฐิ จึงมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับดิรัจฉาน เมื่อเกิดความเห็น
ถูกเช่นนี้ บุคคลจึงเกิดความสำนึกรับผิดชอบในศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง ด้วยการไม่
ยอมประพฤติกรรมกิเลส 4 อย่างเด็ดขาด
66 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก