ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต่อไปอีกว่า
[259] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสเวยยากรณ ภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์
บุคคลที่ไม่ใช่มิตรแท้ 4 จำพวกนี้ คือ
1. มิตรที่ถือเอาแต่ประโยชน์จากผู้อื่นอย่างเดียว
2. มิตรดีแต่พูด
3. มิตรพูดประจบ
4. มิตรชักนำในทางเสื่อม
บัณฑิตรู้อย่างนี้แล้ว พึงเว้นเสียให้ห่างไกล เหมือนคนเว้นทางมีภัยเฉพาะหน้าเสียฉะนั้น
อธิบายความ : เมื่อพระพุทธองค์ตรัสเรื่องมิตรเทียม 4 ประเภทจบลง เท่ากับ
พระองค์ทรงให้ตะแกรงกายสิทธิ์มา 4 ใบ แต่ละใบมีช่องตะแกรงอยู่ 4 ช่อง รวมเป็นทั้งหมด
16 ช่อง แต่ละช่องเปรียบเสมือนพฤติกรรมเลวๆ แต่ละอย่าง ของมิตรเทียม ตะแกรงทั้ง 4
ใบนี้ ใช้สำหรับร่อนหาพฤติกรรมมิตรเทียม โดยคนแรกที่ต้องรีบจับมาร่อนหาก่อนคือตัวเอง
หากพบพฤติกรรมมิตรเทียมข้อใดในตัวให้รีบแก้ไขเสีย หลังจากนั้นจึงค่อยร่อนหาของผู้อื่น
หากพบในตัวผู้ใด และเราสามารถแก้ให้เขาได้ ก็ต้องรีบช่วยแก้ไข แต่ถ้าแก้ไม่ไหว ก็ต้อง
หลีกบุคคลนั้นให้ไกลแสนไกล เพื่อป้องกันความเป็นพาลหรือความไม่สำนึกรับผิดชอบนั้นๆ
ของเขาไหลมาสู่ตัวเรา
7.6.2 มิตรมีใจดี (มิตรแท้)
[260] คหบดีบุตร คน 4 จำพวกนี้ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี (มิตรแท้) คือ
1. มิตรมีอุปการะ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
3. มิตรแนะนำประโยชน์ จึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
4. มิตรมีความรักใคร่ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
อธิบายความ : มิตรมีใจดีหรือมิตรแท้ หมายถึง เพื่อนดี มีสำนึกรับผิดชอบสูง
ดังนั้น การคบมิตรแท้ คือ การยอมรับเอาพฤติกรรมดี มีความรับผิดชอบสูงของเพื่อน
แท้เข้ามาไว้ในตัว เป็นเหตุให้ตนเองพลอยละอายต่อการทำความชั่ว แต่ตั้งใจทำความดีทุก
บ ท ที่ 7 สิ ง ค ล ก สู ต ร DOU 265