วัฒนธรรมการบริหารจัดการของรัฐบาล GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 252
หน้าที่ 252 / 298

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้พูดถึงความคาดหวังของประชาชนจากรัฐบาลในการสร้างวัฒนธรรมการบริหารจัดการที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทั้งทางธรรมชาติและสังคม เมื่อผู้นำตั้งอยู่ในธรรมจะเกิดผลดีต่างๆ ต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือฟ้าดิน การยึดมั่นในศีลธรรมจะทำให้ความสุขและความเจริญอยู่กับประชาชนอย่างยั่งยืน ดังนั้นการมีผู้นำที่ตั้งอยู่ในธรรมจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการบริหารประเทศ.

หัวข้อประเด็น

-ความคาดหวังของประชาชน
-วัฒนธรรมอันดีงาม
-ผลกระทบของการตั้งอยู่ในธรรม
-ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและการปกครอง
-สุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากรัฐบาลทั้ง 5 ประการนี้ ถ้ารัฐบาลปัจจุบันสามารถปฏิบัติได้อย่าง สมบูรณ์แบบ ในกาลเวลาต่อไปสิ่งเหล่านี้ก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมในการบริหารจัดการ และปกครองชาติ บ้านเมือง ดังนั้นในอนาคตไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็จะยึดเอาวัฒนธรรมอันดีงามที่รัฐบาลก่อนๆ เคย ปฏิบัติมาเป็นแบบอย่างได้นำความเจริญมาสู่บ้านเมือง อีกทั้งนำความสุขมาสู่ประชาชนให้ปรากฏอย่าง ชัดเจนแล้ว ในที่สุดวัฒนธรรมอันดีงามนี้ก็จะเป็นมรดกตกทอดไปเรื่อยๆ วัฒนธรรมอันดีงาม ในการใช้อำนาจบริหารจัดการ และปกครองชาติบ้านเมืองที่กล่าวมานี้ มิใช่ของใหม่ แต่มีมาแล้วตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาล ซึ่งปรากฏว่า สมัยใดที่ผู้นำหรือ ผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ ตั้งอยู่ในธรรม ก็จะเกิดปัญหาเลวร้ายนานาประการ ทั้งด้านธรรมชาติแวดล้อม และความเป็นอยู่ของ ประชาชนในชาติ อย่างที่ไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย ในทางกลับกันสมัยใดที่ผู้นำ หรือผู้ปกครองตั้งอยู่ในธรรม นอกจากจะไม่มีปัญหาเลวร้ายต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว เรื่องดีงามต่างๆ จะบังเกิดขึ้นทุกด้านอย่างคาดไม่ถึง เข้าทำนองไม่ต้องลงทุนมาก แต่ลงทุน อย่างเหมาะสมถูกต้อง ก็จะบังเกิดผลกำไรเกินควรเกินคาดทีเดียว ดังพระธรรมเทศนาที่พระสัมมาสัมพุทธ เจ้า ตรัสแสดงไว้ใน อธัมมิกสูตร ซึ่งมีในความโดยย่อ ดังนี้ ถ้าสมัยใดที่พระราชาไม่ตั้งอยู่ในธรรม แม้พวกข้าราชการก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิด ผลร้ายเป็นลูกโซ่อย่างต่อเนื่องต่อไปอีก คือนักวิชาการและนักธุรกิจก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ชาวบ้านชาวไร่ ชาวนาก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม พฤติกรรมผิดศีลธรรมของผู้คน จะส่งผลให้ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรไปไม่ สม่ำเสมอ ยังผลให้ดาวนักษัตร (เป็นดาวส่วนใหญ่บนท้องฟ้า) โคจรไม่เที่ยงตรง คืนและวันก็เคลื่อนไป เดือน และข้างขึ้นและข้างแรมก็คลาดไป ฤดูและปีก็เคลื่อนไป ลมก็พัดผันแปรไป พัดผิดทิศทางไป เป็นเหตุให้เทวดา (เทวดาชั้นล่างๆ เช่น อากาสเทวา และรุกขเทวา) ปั่นป่วน เกิดความขัดเคืองใจ ฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล ข้าว กล้าในนาก็ออกรวง และแก่ไม่พร้อมกัน (ในต้นเดียวกันและในท้องนาเดียวกัน) มนุษย์ทั้งหลายจึงต้องบริโภค ข้าวที่มีคุณสมบัติทางโภชนาการต่ำ จึงเป็นเหตุให้ 1) อายุ (เฉลี่ย) สั้น 2) ผิวพรรณไม่งาม 3) มีกำลัง ถดถอย 4) มีความเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ในทำนองกลับกัน ถ้าสมัยใดที่พระราชาตั้งอยู่ในธรรม บรรดาข้าราชการย่อมตั้งอยู่ในธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีเป็นลูกโซ่อย่างต่อเนื่องต่อไปอีก นักวิชาการ และนักธุรกิจตั้งอยู่ในธรรม ชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนาก็ตั้งอยู่ในธรรม ความประพฤติ อยู่ในศีลธรรมของผู้คน จะส่งผลให้ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ โคจร ไปสม่ำเสมอ ยังผลให้ดาวนักษัตรโคจรอย่างเที่ยงตรง คืนและวันก็ตรง เดือนและข้างขึ้นข้างแรมก็ตรง ฤดู และปีก็ตรง ลมก็พัดเป็นปกติ พัดถูกทิศทาง เทวดาทั้งหลายก็อยู่สุขสบาย ไม่มีความขัดเคืองใจ ฝนก็ตก ต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าในนาจึงออกรวงและแก่พร้อมกัน มนุษย์ทั้งหลายจึงได้บริโภคข้าวที่มีคุณสมบัติ ทางโภชนาการสูง จึงเป็นเหตุให้ 1) อายุ (เฉลี่ย) ยืน 2) ผิวพรรณงาม 3) มีกำลังแข็งแรง 4) โรคภัยไข้ * อัง, จตุก, มจร. 21/70/114 บ ท ที่ 6 บ ท ส รุ ป DOU 237
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More