การบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและการปฏิรูป GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 250
หน้าที่ 250 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการบริหารจัดการประเทศโดยรัฐบาลที่มีความเป็นอิสระ และกล้าตัดสินใจในการเลือกบุคคลเข้าทำงาน รวมถึงการถอดถอนบุคคลที่ไม่เข้าทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการปฏิรูปความคิดและระบบการทำงานให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง โดยไม่เห็นแก่พรรคพวกหรือผลประโยชน์ส่วนตัว โดยต้องใช้วิธีการชี้แจงและสร้างความเข้าใจร่วมกัน.

หัวข้อประเด็น

-การใช้อำนาจของรัฐบาล
-ความโปร่งใสในการบริหาร
-การปฏิรูปเพื่อประโยชน์ของประชาชน
-ความท้าทายในยุคปัจจุบัน
-การสร้างวัฒนธรรมใหม่ในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3. รัฐต้องไม่เห็นแก่หน้าใคร ในการบริหารและการปกครองประเทศนั้น รัฐบาลต้องใช้ อำนาจที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และเป็นอิสระในการคัดเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ อย่างเหมาะสม และโปร่งใส กล้าใช้อำนาจในการโยกย้าย ปรับเปลี่ยนบุคคลในตำแหน่งต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์สุข ของประชาชน ขณะเดียวกัน ก็กล้าใช้อำนาจถอดถอนบุคคลที่บกพร่อง ในการปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งของ ตน หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐ โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ไม่เกรงใจว่าใครจะมีเส้นสาย โยงใยกับผู้มีอิทธิพลในบ้านเมือง ไม่เกรงกลัวว่าใครจะมีเส้นใหญ่เพียงใด โดยคิดถึงประโยชน์สุขของ ประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่ทั้งนี้จะต้องใช้อำนาจอย่างโปร่งใส สุจริต และ เป็นธรรม มิใช่ทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง และเส้นสายของรัฐเอง เหล่านี้คือ สิ่งที่ประชาชนปรารถนาจะเห็นการใช้อำนาจของรัฐบาล 4. กล้าปฏิรูปสิ่งที่ล้าหลัง โลกในยุคปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก เทคโนโลยี ต่างๆ ได้ก้าวไกลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การแข่งขันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ ก็เป็นไปอย่างชนิดที่เรียกว่าต้องต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ นักปกครองจึงจำเป็นต้องหูไว ตาไว คิดไว อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อรัฐบาลสามารถรู้เท่าทันสถานการณ์ต่างๆ แล้วก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด และ กระบวนท่าการปฏิบัติต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกล้าตัดสินใจ ปฏิรูปวิธีคิดและระบบการทำงานต่างๆ ให้ทันกาล ทั้งนี้ย่อมหมายถึงการปฏิรูปความคิด และระบบการ ทํางานของคนทั้งชาติด้วย ตามธรรมดาคนเราเมื่อคุ้นกับความคิด และการกระทำสิ่งใดก็ย่อมจะพอใจที่จะ “เป็น” และ “อยู่” กับสิ่งนั้น จนกลายเป็นนิสัย และเป็นวัฒนธรรม ครั้นเมื่อนิสัยและวัฒนธรรมของตนถูกปฏิรูปก็จะแสดง ปฏิกิริยาโต้ตอบคัดค้านทันที ยิ่งบางกลุ่มบางพวกที่เห็นว่าตนกำลังจะสูญเสียประโยชน์ด้วยแล้ว ก็จะต่อ ต้านแบบไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ ทีเดียว รัฐบาลที่หูไวตาไว ทันต่อสภาวการณ์ต่างๆ ของโลก เมื่อปวารณาตนอาสาเข้ามารับใช้แก้ปัญหา บริหารจัดการปกครอง บ้านเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนแล้ว เมื่อเห็นสมควรจะต้องปฏิรูปสิ่งใด เรื่องใด เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม มิใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคพวกของรัฐบาลโดยเฉพาะแล้ว ก็จำเป็น ต้องยืนหยัดทำอย่างสุดกำลัง โดยไม่หวั่นไหว หรือท้อถอยต่อปฏิกิริยาคัดค้านต่อต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อต้านของบุคคลบางกลุ่มบางพวก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มพวกของตนโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้จะ ต้องไม่ทำการปฏิรูปแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่า แต่จะต้องใช้วิธีชี้แจงด้วยหลักเหตุผลให้ทุกฝ่ายเกิดความ เข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปสิ่งที่ล้าหลัง จะประสบผลสำเร็จ มากน้อยเพียงใดก็ตาม ย่อมเป็น บ ท ที่ 6 บ ท ส รุ ป DOU 235
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More