การเลี้ยงดูบุตรในสังคมไทยสมัยใหม่ GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 167
หน้าที่ 167 / 298

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาอธิบายถึงหน้าที่ของบุตรในการรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูล โดยระบุว่าบุตรจะต้องมีความประพฤติดีและศึกษาหลักการทำบุญตามพระพุทธศาสนา การเข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างพื้นฐานบุคลิกที่ดีให้กับบุตร การเลี้ยงดูในสังคมไทยสมัยใหม่ที่มารดามักมอบหมายให้พี่เลี้ยงมีข้อพิจารณาที่ต้องใส่ใจ และเน้นว่าการเลี้ยงดูบุตรต้องเป็นการทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่การดูแลพื้นฐาน เช่น อาหาร การนอนหรือการศึกษา เนื้อหายังชี้ให้เห็นว่าการปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่เยาว์วัยมีผลต่อพัฒนาการของบุตรในอนาคต

หัวข้อประเด็น

-หน้าที่ของบุตร
-การรักษาเกียรติยศ
-การทำบุญในพระพุทธศาสนา
-การเลี้ยงดูบุตรในสังคมไทย
-ความสำคัญของมารดา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตั้งตนอยู่ในความดี เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูลไว้ บุตรจะทำหน้าที่ในข้อนี้ได้สำเร็จ ก็ต่อ เมื่อ มารดาบิดาได้ปฏิบัติหน้าที่ 3 ข้อแรกของตนได้สมบูรณ์ 4) ประพฤติตนให้เป็นผู้สมควรรับมรดก หมายถึงบุตรเป็นผู้มีความประพฤติดี ไม่เกี่ยวข้อง กับอบายมุข 6 ประการ ที่สำคัญคือมีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง บุตรประเภทนี้ย่อมรักษามรดก และดำรงวงศ์ตระกูลให้สืบต่อไปนานๆ ได้ 5) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน บุตรจะทำหน้าที่ข้อนี้ได้ถูกต้อง ก็ต่อเมื่อ มีความเข้าใจเรื่องบุญกิริยาวัตถุ (วิธีทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนา) เป็นอย่างดี ซึ่งจะเรียนรู้ได้จาก พระภิกษุสงฆ์ และการเข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น ถ้าพ่อแม่พาลูกเข้าวัดปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ขณะเดียวกันตนเองก็ปฏิบัติให้ บุตรดูเป็นแบบอย่าง บุตรย่อมทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ เมื่อพ่อแม่ละโลกไปแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น แม้พ่อแม่จะอยู่ในปรโลกก็มีโอกาสสั่งสมบุญอยู่เสมอ โดยรับบุญจากการอุทิศส่วนกุศลของบุตรธิดา สำหรับหน้าที่ 5 ประการของบุตรนี้ อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า บุตรปฏิบัติหน้าที่ของเขาได้ สมบูรณ์ไม่บกพร่อง ก็เพราะได้รับการปลูกฝังความรู้เรื่องสัมมาทิฏฐิ ตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่ จนเกิดเป็น นิสัยประจำใจของบุตรเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญมากอีกเรื่องหนึ่ง คือ การเลี้ยงดูบุตรในสังคมไทยสมัยใหม่ ที่ สตรีต้องออกไปประกอบอาชีพนอกบ้าน มีข้อสังเกตว่าสตรีจำนวนหนึ่งมักจะยกหน้าที่การเลี้ยงดูบุตรวัย ทารกของตน ให้เป็นภาระรับผิดชอบของพี่เลี้ยง ซึ่งอาจจะเป็นลูกจ้าง หรือคนใช้ในบ้านของตน เกือบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แม้เวลากลางคืนซึ่งตนกลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่ลูกน้อยก็ยังต้องนอนกับพี่เลี้ยง เหตุที่ทำ เช่นนี้ก็เพราะมีความคิดว่า การดูแลลูกน้อยในเวลาค่ำคืน จะทำให้ตนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ ซึ่งจะเป็น อุปสรรคปัญหาในการทำงานของตนในวันรุ่งขึ้น บรรดาสตรีผู้มอบหมายการเลี้ยงดูบุตรวัยทารกของตน ให้เป็นภาระหน้าที่ของพี่เลี้ยงอย่าง เด็ดขาดนั้น ได้ตระหนักบ้างหรือไม่ว่า บรรดาพี่เลี้ยงจะมีน้ำใจทุ่มเทแรงกายแรงใจทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตร ของท่าน เสมือนทารกนั้นเป็นสายโลหิตของเขาหรือไม่ เพราะขนาดผู้เป็นมารดาของทารกเอง ยังไม่ยอม ทุ่มเวลาให้กับลูกของตนอย่างที่ควรจะทำ เพราะฉะนั้น จึงใคร่ขอให้ข้อคิดแก่สตรีผู้ที่จะเป็นมารดา หรือกำลังเป็นมารดาทั้งหลาย ต้อง ตระหนักให้มากว่าการเลี้ยงบุตรไม่ว่าวัยใดทั้งสิ้น มิใช่เพียงการดูแลให้บุตรได้กินอิ่ม นอนหลับ ไม่เจ็บไข้ ได้รับการศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ซึ่งละเอียดลึกซึ้งที่จะต้อง ทำมากกว่านี้อีกมาก บุตรของท่านจึงจะมีโอกาสเป็นคนดีที่โลกต้องการอย่างแท้จริง 152 DOU สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More