การสงเคราะห์สังคมในพระพุทธศาสนา GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 30
หน้าที่ 30 / 298

สรุปเนื้อหา

การไม่สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสส่งผลต่อสังคมอย่างไร การเรียนรู้จากบรรพชิตและการตอบแทนสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในกรณีที่รัฐไม่สามารถรับผิดชอบได้ การช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหากลับสร้างสังคมที่สงบสุข และป้องกันอาชญากรรมได้ ไม่ควรปล่อยให้สลัมอยู่ไม่ไกลจากบ้านเศรษฐี เพราะทุกคนมีโอกาสประสบภัยได้ รวมถึงการต้องช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม.

หัวข้อประเด็น

-การสงเคราะห์ในสังคม
-พระพุทธศาสนาและการสอนธรรมะ
-ผลกระทบของการไม่ช่วยเหลือ
-ความสำคัญของการค้ำชูซึ่งกันและกัน
-การป้องกันอาชญากรรมในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าถึงคราวที่ตนตกระกำลำบากบ้าง จะหวังได้อย่างไรว่าจะมีใครมาสงเคราะห์ตน เมื่อคิด เช่นนี้แล้วผู้คนในกลุ่มนี้ก็จะพยายามสะสมทรัพย์สินเงินทองไว้มากๆ จนเกินเหตุ โดยไม่คิดสงเคราะห์ใครๆ 4) บางพวกไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมะ บุคคลในกลุ่มนี้นอกจากไม่สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสต่างๆ แล้ว ยังไม่สงเคราะห์เหล่าสมณพราหมณ์อีกด้วย เพราะเห็นว่าบรรดานักบวชเอาเปรียบสังคม เห็นว่าบรรพชิต มีชีวิตอยู่อย่างพร้อมบริบูรณ์ด้วยปัจจัย 4 โดยไม่ต้องลงแรงทำงานดังเช่นฆราวาส ผู้คนที่มีความคิดเช่นนี้ก็เพราะไม่สนใจพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา แม้ตนจะถือ กำเนิดในครอบครัวที่เรียกตนเองว่าชาวพุทธ จึงไม่รู้ว่าโดยพระวินัยนั้น บรรพชิตไม่สามารถประกอบอาชีพ ดังเช่นฆราวาสได้ เมื่อบวชเข้ามาเป็นบรรพชิต ในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านต้องมีหน้าที่ศึกษา และ ปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดความรู้แจ้งเห็นแจ้งในสัจธรรม แล้วนำความรู้นั้นมาอบรมสั่งสอนญาติโยม ให้เป็น คนดีมีสัมมาทิฏฐิ รู้ชัดถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ โดยสรุปก็คือเป็น ครูสอนศีล ธรรมให้ญาติโยมประพฤติตนเป็นคนดีในชาตินี้ เมื่อละโลกไปแล้วก็จะได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ส่วนญาติโยมทั้งหลาย เนื่องจากต้องสาละวนอยู่กับการทำมาหากินไม่มีเวลาศึกษาธรรมมากนัก ก็ได้อาศัยการฟังธรรมจากบรรพชิตเป็นการเรียนลัด ขณะเดียวกันก็ต้องทำหน้าที่อุปถัมภ์ค้ำชูสมณพราหมณ์ ในเรื่องปัจจัย 4 เข้าลักษณะต่างฝ่าย ต่างสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สันติสุขจึงจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่า ผู้คนทั้ง 4 ประเภทนี้ ล้วนไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมะ ประกอบกับมี นิสัยตระหนี่ถี่เหนียว และกิเลส ที่นอนเนื่องอยู่ในกมลสันดาน พวกเขาจึงไม่คิดทำสังคมสงเคราะห์ ถ้าผู้คนไม่ทำสังคมสงเคราะห์จะเกิดโทษภัยแก่สังคมอย่างไร ก่อนอื่นพึงทำความเข้าใจว่า แม้รัฐจะมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องสังคมสงเคราะห์ก็ตาม แต่ เนื่องจากความจำกัดในด้านงบประมาณและเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง จึงทำให้การสงเคราะห์ในกรณีต่างๆ ไม่ ทั่วถึง และไม่ทันท่วงที ดังนั้นถ้าผู้คนในสังคมที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือสงเคราะห์ ผู้ด้อยโอกาสหรือประสบสาธารณภัยต่างๆ นอกจากจะเป็นการป้องกัน ไม่ให้โทษภัยเกิดขึ้นแก่สังคมแล้ว ยังเป็นการป้องกันโทษภัยที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเองอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะผู้อดอยากยากจนทุกคน ต่างต้องดิ้นรน ขวนขวายเพื่อความอยู่รอด ตราบใดที่ยังมีพละกำลังอยู่ ย่อมไม่มีใครยอมอดตาย ถ้าไม่พบหนทางสุจริต พวกเขาก็พร้อมที่จะทำทุจริตได้เสมอ นับตั้งแต่การลักขโมย จี้ปล้น โจรกรรม ล่อลวง ค้าสิ่งผิดกฎหมาย ค้า ยาเสพติด ค้าบริการทางเพศ เกี่ยวข้องกับอบายมุขทุกรูปแบบ ซึ่งล้วนเป็นทางนำไปสู่อาชญากรรมทั้งสิ้น สังคมใดที่ถูกบุคคลมิจฉาทิฏฐิคอยรังควานอยู่เนืองๆ ย่อมหาความสงบสุขไม่ได้ มีข้อคิดสะกิด ใจอยู่อย่างหนึ่งว่า คฤหาสน์ของเศรษฐีที่ถูกรายล้อมด้วยสลัม หรือแม้อยู่ใกล้สลัม เจ้าของคฤหาสน์นั้น อย่า พึงหวังว่าจะมีความสุข และคราใดที่สลัมถูกไฟไหม้แล้ว อย่าพึงหวังว่าคฤหาสน์หลังนั้นจะรอดพ้นจากอัคคีภัย บ ท ที่ 1 แ น ว คิ ด ใ น ก า ร ป ฏิรูป มนุษย์ DOU 15
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More