ลักษณะนิสัยของมิตรเทียมและมิตรแท้ GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 134
หน้าที่ 134 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอความแตกต่างระหว่างมิตรแท้และมิตรเทียมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ โดยแบ่งลักษณะนิสัยออกเป็น 4 กลุ่ม สำหรับมิตรแท้คือ มิตรมีอุปการะ, มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข, มิตรแนะนำประโยชน์, และมิตรมีความรักใคร่ ขณะที่มิตรเทียมมีนิสัยที่ไม่ดี เช่น การปอกลอก, การพูดดีแต่ทำไม่ดี, การประจบ, และการชักชวนทำสิ่งไม่ดี ผู้ที่เป็นมิตรแท้มักจะยอมเสียสละ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกมิตรเทียมทำร้ายได้

หัวข้อประเด็น

-มิตรแท้
-มิตรเทียม
-ลักษณะนิสัยของมิตร
-การทำร้ายโดยมิตรเทียม
-คำสอนของพระพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3.3 ลักษณะนิสัยของมิตรเทียมและมิตรแท้ 4 กลุ่ม ดังนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างมิตรแท้ 4 กลุ่ม และมิตรเทียม ความแตกต่างระหว่างลักษณะนิสัย ของมิตรเทียมกับมิตรแท้ กลุ่มที่ ลักษณะนิสัยของมิตรเทียม ลักษณะนิสัยของมิตรแท้ 1 คนปอกลอก 2 คนดีแต่พูด 3 คนหัวประจบ 4 คนชวนฉิบหาย มิตรมีอุปการะ มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข มิตรแนะนำประโยชน์ มิตรมีความรักใคร่ จากลักษณะนิสัยที่ตรงข้ามกันระหว่างมิตรเทียมกับมิตรแท้เหล่านี้ ย่อมมีส่วนเป็นเหตุให้มิตรแท้ หรือคนดีมองมิตรเทียมไม่ออก หรือแม้มองออกก็ยอมเสียสละ เช่น มิตรมีอุปการะ ย่อมมีนิสัยรักการให้ การแบ่งปัน การสงเคราะห์ด้วยความมีเมตตา กรุณาอย่างจริงใจ เมื่อถูกเพื่อนปอกลอก ก็คิดไปว่าเพื่อนคง จะขาดแคลน จึงยอมอดทนเสียสละให้ กว่าจะรู้ว่าตนถูกปอกลอก ก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวเสียแล้ว เป็นต้น อนึ่ง เพราะเหตุที่มิตรเทียมมีความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเป็นศัตรูอยู่ในกมลสันดาน พร้อม ที่จะทำร้าย และทำลายเพื่อนอยู่ทุกลมหายใจ ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิตรเทียมแต่ละประเภทจะมี ลักษณะนิสัยเลวทั้ง 4 ประการดังกล่าว พร้อมบริบูรณ์อยู่ในใจทุกคน พฤติกรรมอย่างหนึ่งที่มิตรเทียมจะทำร้าย เพื่อนก็คือ การชักชวนเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับอบายมุข ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาเกลือกกลั้วอยู่เป็นประจำ แม้ ในเบื้องต้น ซึ่งคนดียังมีสติ มีหิริโอตตัปปะ และความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์และศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ของตนเองอยู่อย่างสมบูรณ์ ครั้นเมื่อทนรบเร้าด้วยถ้อยคำชักชวนหว่านล้อมต่างๆ นานาไม่ไหว ในที่สุดก็ จะพลาดท่าเสียทีมิตรเทียมเข้าจนได้ ไม่ต้องมาก แม้เพียงได้ดื่มเหล้าด้วยกันสักครั้งเดียว สติของคนเราก็ หย่อนสมรรถภาพ หรืออาจถึงขาดสะบั้นก็ได้ หรือชวนไปเล่นการพนัน โดยวางแผนให้เป็นผู้ชนะเพียงครั้ง เดียว คนที่เคยดีก็จะรู้สึกติดอกติดใจ อยากไปร่วมกิจกรรมซ้ำอีก แม้จะมีสติและสัมมาทิฏฐิ สามารถเตือนตน หรือห้ามปรามไม่ให้ไปสร้างกรรมชั่วอีกอยู่ใน ระดับหนึ่งก็จะไม่สำเร็จ เพราะกิเลสที่เคยนอนนิ่งอยู่ในใจของคนดี ได้ถูกปลุกขึ้นมาสู้รบ ปรบมือกับสัมมา ทิฏฐิแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายจนหาความสงบมิได้ มิตรเทียมรู้จุดอ่อนข้อนี้ดี จึงต้อง บทที่ 3 ค ว า ม ยั่งยืน แห่ง คุณสมบัติ ข อ ง ค น ดี DOU 119
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More