ข้อความต้นฉบับในหน้า
คาถาประพันธ์มีต่อไปอีกว่า
ทาน (การให้)
เปยยวัชชะ (วาจาเป็นที่น่ารัก)
อัตถจริยา (การประพฤติประโยชน์) ในโลกนี้
และสมานัตตตา (การวางตนสม่ำเสมอ)
ในธรรมนั้นๆ ตามสมควร
สังคหธรรมเหล่านี้แลช่วยอุ้มชูโลก
เหมือนลิ่มสลักเพลาคุมรถที่แล่นไปไว้ได้ฉะนั้น
ถ้าไม่มีสังคหธรรมเหล่านี้
มารดาหรือบิดาก็ไม่พึงได้การนับถือ
หรือการบูชาเพราะบุตรเป็นเหตุ
เพราะบัณฑิตเล็งเห็นความสำคัญของสังคหธรรมเหล่านี้ ฉะนั้น บัณฑิตเหล่านี้จึงถึงความ
เป็นใหญ่และเป็นผู้น่าสรรเสริญ
อธิบายความ : พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบดีว่า การปฏิบัติอริยวินัยตามหน้าที่
ที่เราพึงปฏิบัติต่อทิศ 6 ของเราก็ดี การปฏิบัติอริยวินัยตาม หน้าที่ของทิศ 6 แต่ละทิศที่
พึงปฏิบัติต่อตัวเราก็ดี การที่จะปฏิบัติอริยวินัยเหล่านั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิผลถึงขั้นกำจัด
บาปกรรม 14 ประการ ของแต่ละฝ่ายให้สิ้นไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเหตุนี้พระพุทธ
องค์จึงทรงแสดงอริยวินัยไว้อีกหมวดหนึ่ง สำหรับอบรมขัดเกลาแต่ละฝ่าย ให้มีศิลปะใน
การผูกสมัครรักใคร่ ห่วงใย จูงใจ และให้เอื้ออาทรต่อกันอยู่เสมอ ซึ่งจะมีผลให้แต่ละฝ่าย
ใส่ใจปฏิบัติอริยวินัยตามหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์ อริยวินัยหมวดนั้นคือ สังคหธรรม 4
ประการ ซึ่งประกอบด้วย
1. ทาน หมายถึง การให้สิ่งของที่เหมาะที่ควรแก่ผู้ขาดแคลน
2. เปยยวัชชะ หมายถึง การพูดถ้อยคำน่ารัก ซาบซึ้งใจ ก่อให้เกิดกำลังใจในการ
ทำความดี และบุญกุศลทุกรูปแบบ
3. อัตถจริยา หมายถึงการช่วยเหลือในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งอาจเป็นการช่วย
เหลือทางด้านแรงกาย ด้านสติปัญญา ความรู้ความสามารถ ที่พอเหมาะพอควรแก่ผู้
ขาดแคลน
บทที่ 7 สิ ง ค ล ก สู ต ร DOU 279