การปลูกฝังสัมมาทิฏฐิในพระพุทธศาสนา GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 188
หน้าที่ 188 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความสำคัญของการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิในทั้งคฤหัสถ์และพระสงฆ์ โดยชี้ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระพุทธองค์ได้กำหนด เพื่อให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน การสร้างความมั่นคงในสัมมาทิฏฐิเริ่มจากครอบครัวและครูอาจารย์ โดยการอบรมและการแสดงตัวอย่างเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณธรรมและแนวคิดที่ถูกต้องในทุกมิติของชีวิตคนเรา อ่านเพิ่มเติมได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การปลูกฝังสัมมาทิฏฐิ
-บทบาทของพระสงฆ์
-บทบาทของคฤหัสถ์
-ความเจริญของพระพุทธศาสนา
-อิทธิพลของผู้คนในชีวิต
-การเรียนรู้จากครอบครัวและครูอาจารย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

มีข้อสังเกตว่า การที่คฤหัสถ์จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนทั้ง 5 ประการได้สมบูรณ์ ก็เพราะ ได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิเป็นอย่างดีจากพระภิกษุสงฆ์ และการที่สงฆ์จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตน ทั้ง 6 ประการได้สมบูรณ์ ก็เพราะสามารถอบรมและพัฒนาตนอยู่ในกรอบแห่งอภิสมาจาริกวัตร (ธรรมเนียม เกี่ยวกับมารยาทและความเป็นอยู่ที่ดีงาม) อย่างมั่นคงถาวร ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ใน ปฐมคารวสูตร 1 ตอนหนึ่งว่า “ข้อที่ภิกษุบำเพ็ญธรรม คืออภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญธรรมของ พระเสขะ (พระอริยบุคคลที่ยังไม่บรรลุอรหัตผล) ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ข้อที่ ภิกษุบำเพ็ญธรรมของพระเสขะให้บริบูรณ์แล้วจักรักษาศีลให้บริบูรณ์ได้นั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ ข้อที่ภิกษุอบรมสัมมาทิฏฐิ (สัมมาทิฏฐิขั้นวิปัสสนา) ให้บริบูรณ์แล้ว จักเจริญสัมมาสมาธิ (มรรค และผลของสมาธิ) ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้” ถ้าทั้ง 2 ฝ่าย คือสงฆ์และคฤหัสถ์ สามารถทำหน้าที่ของตนตามเจตนารมณ์ ที่พระพุทธองค์ ทรงกำหนดมอบหมายไว้ ย่อมเชื่อมั่นได้ว่าพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองเป็นที่พึ่งของมนุษยชาติต่อไป อีกนานแสนนาน สรุป จากเรื่องทิศ 6 นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดให้ตัวเราเป็นศูนย์กลางแวดล้อมด้วยผู้คน 6 กลุ่ม ซึ่งอาจจะเรียกว่า มิตร หรือเพื่อนของเราก็ได้ คือเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย บุคคลในแต่ละทิศ ล้วนมีอิทธิพลต่อทัศนคติ ความคิด และพฤติกรรมของเรามากน้อย แตกต่างกันออกไป โดยปกติธรรมดานั้น ผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตในวัยเยาว์ของเรามากที่สุดก็คือมารดาบิดา หรือทิศเบื้องหน้า ถ้าเรามีทิศเบื้องหน้าเป็นคนดีมีสัมมาทิฏฐิเข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง ก็นับว่าเป็นโชค อย่าง ใหญ่หลวงของตัวเรา เพราะเราจะได้รับการปลูกฝังถ่ายทอดสัมมาทิฏฐิตั้งแต่ยังแบเบาะก็ว่าได้ ในกรณีนี้ ถ้าเปรียบตัวเราเป็นผลิตผลขนาดจิ๋วของมะม่วงพันธุ์ดีต้นหนึ่ง ก็น่าจะหวังได้ว่ามะม่วงจิ๋วผลนี้เมื่อแก่แล้ว คงจะไม่กลายพันธุ์ คือมีรสดีเหมือนต้นที่ให้กำเนิด ครั้นเมื่อเราเจริญวัย ได้มีโอกาสพบครูอาจารย์ คือทิศเบื้องขวาตั้งแต่ระดับต้นจนถึงระดับ อุดมศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม ตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิฏฐิอย่างสม่ำเสมอไม่มีบกพร่อง ก็นับว่าเป็นโชคชั้นที่สองของตัวเรา ถ้าเป็นมะม่วงก็เปรียบเสมือนมะม่วงพันธุ์ดี ขึ้นงอกงามในดินดี อีกทั้ง ได้ปุ๋ยดี ไม่มีเพลี้ยหรือแมลงรบกวน ย่อมเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นว่า เมื่อมะม่วงผลนี้แก่ ก็จะเป็นพันธุ์ดี เหมือนพันธุ์เดิม - อัง. ปัญจก. มก. 36/21/28 บทที่ 4 ผู้ลิขิต ชี วิ ต ค น ดี ที่ โ ล ก ต้ องการ DOU 173
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More