กรรมดีและอบายมุขในพระพุทธศาสนา GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 36
หน้าที่ 36 / 298

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงกรรมดีในทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการฝึกฝนกรรมดีทางใจซึ่งประกอบไปด้วยความไม่โลภ ความไม่พยาบาท และสัมมาทิฏฐิ นอกจากนี้ยังอธิบายถึงอบายมุขซึ่งหมายถึงปากทางแห่งความฉิบหาย รวมถึงแนวทางที่จะช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในเกณฑ์กรรมดี 10 ประการ และหลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อความสุขในชีวิตประจำวัน.

หัวข้อประเด็น

- กรรมดี
- กรรมดีทางใจ
- อบายมุข
- ความงามของการมีสัมมาทิฏฐิ
- การดำเนินชีวิตในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เดียวกันก็พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ ถูกกาลเทศะ ไม่พูดในทำนองเขาเล่าว่า หรือปล่อย ข่าวลือ เพราะนอกจากจะไม่เป็นความจริงแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิดโทษอีกด้วย 3) กรรมดีทางใจ ได้แก่ความคิดที่สุจริตอันเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดการพูด และการกระทำที่สุจริต แบ่งออกเป็น 3 ประการ คือ 3.1) ความไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้สิ่งของของผู้อื่น (อนภิชฌา) คือไม่มักได้ ไม่คิดโลภด้วยการ แย่งชิงผลประโยชน์จากผู้อื่นอย่างไร้ความเป็นธรรม ขณะเดียวกันก็ถือสันโดษ คือ พอใจ ในสิ่งที่ตนพึงมีพึงได้ 3.2) ความไม่คิดพยาบาทจองเวรผู้ใด (อพยาบาท) แต่มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น และคิดให้ อภัยอยู่เสมอ 3.3) มีความเห็นหรือความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องโลกและความเป็นไปของชีวิตตามที่เป็นจริง (สัมมาทิฏฐิ) ด้วยการศึกษาและปฏิบัติธรรม “กุศลกรรมบถ 10” นี้ ถือได้ว่าเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน “กรรมดี” ที่มีรายละเอียดอย่างชัดเจน ทำอย่างไรคนเราจึงจะสามารถตั้งมั่นอยู่ในเกณฑ์แห่งกรรมดี 10 ประการนี้อย่างสม่ำเสมอ เหตุปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้คนเราตั้งอยู่ในกุศลกรรมบถ 10 อยู่เสมอ นอกจาก การได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิจนเกิดเป็นนิสัย ตั้งแต่เยาว์วัยจากครอบครัว จากสถาบันการศึกษาแล้ว เมื่อโตขึ้นก็จะต้องใส่ใจศึกษา และปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันมิให้ขาด ทั้งต้องไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุข อย่างเด็ดขาดอีกด้วย อบายมุข คืออะไร “อบายมุข” โดยรูปศัพท์ แปลว่า “ปากทางแห่งความฉิบหาย” หมายความว่า บุคคลที่เข้าไป เกี่ยวข้องกับอบายมุข คือผู้ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดความเดือดร้อน และความหายนะให้ แก่ตนเอง หรือผู้ อื่นในเบื้องต้น แต่ในที่สุดก็จะกลายเป็นความเดือดร้อนทั้งแก่ตนเอง และผู้อื่นตลอดถึงสังคมโดยรวม ในพระพุทธศาสนาแบ่งอบายมุขออกเป็น 6 ประการใหญ่ คือ 1) การติดสุราเมรัย และยาเสพติดประเภทต่างๆ 2) การชอบเที่ยวกลางคืน 3) การติดการดูการละเล่น 4) การติดการพนัน 5) การคบคนชั่วเป็นมิตร 6) การเกียจคร้านในการทำงาน บ ท ที่ 1 แ น ว คิ ด ใ น ก า ร ป ฏิรูป มนุษย์ DOU 21
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More