การปฏิรูปมนุษย์และมิจฉาทิฏฐิ GB 203 สูตรสำเร็จการพัฒนาสังคมโลก หน้า 229
หน้าที่ 229 / 298

สรุปเนื้อหา

การดำรงชีวิตในสังคมมนุษย์ถูกก่อความเดือดร้อนจากพฤติกรรมชั่วร้ายของมิจฉาทิฏฐิชน ซึ่งต้องการการปฏิรูปด้วยการปลูกสัมมาทิฏฐิในใจคน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความมืดบอดในเรื่องธรรมะและบาปบุญคุณโทษ บุคคลที่ตกอยู่ในความมืดบอดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ บุคคลตาบอดที่ไม่มีปัญญา หรือนักวัตถุนิยมที่เพียงแสวงหาสิ่งของและความสนุกสนานแทนการทำความดี การนำไปสู่การกระทำชั่วเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งนั้นเป็นอันตรายต่อสังคมและตนเอง โดยสร้างผลกรรมที่นำไปสู่การถูกลงโทษในอบายภูมิในอนาคต ข้อความนี้จึงเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของการเห็นคุณค่าของธรรมะและการแสวงหาความสุขที่แท้จริงในชีวิต ลงเอยการมีจิตเมตตาและคุณธรรมในการดำเนินชีวิตเพื่อประโยชน์สุขของตนและสังคมทั่วโลก

หัวข้อประเด็น

-มิจฉาทิฏฐิชน
-การปฏิรูปมนุษย์
-ความสุขที่แท้จริง
-ภัยของวัตถุนิยม
-ความมืดบอดในธรรมะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กว่าดิรัจฉานมากมาย พฤติกรรมชั่วร้ายของมิจฉาทิฏฐิชน ย่อมก่อความเดือดร้อนวุ่นวายขึ้นในสังคมมนุษย์ ตลอดจนสังคมโลกอย่างยากที่จะหาสันติสุขได้ ดังที่เห็นกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นต้อง มีการปฏิรูปมนุษย์ ด้วยการปลูกสัมมาทิฏฐิให้เข้าไปอยู่ในใจผู้คนอย่างมั่นคงถาวร เพื่อป้องกันมิให้มิจฉาทิฏฐิ กําเริบออกฤทธิ์ได้ 2 ประเภท คือ 3. มิจฉาทิฏฐิทำให้ผู้คนตกอยู่ในความมืดบอด บุคคลที่ตกอยู่ในความมืดบอดแบ่งออกได้เป็น 3.1 บุคคลตาบอด คือ ไม่มีปัญญาหาทรัพย์ ไม่มีปัญญาเข้าใจธรรมะ และไม่เข้าใจเรื่อง บาปบุญคุณโทษ 3.2 บุคคลตาเดียว คือ มีปัญญาหาทรัพย์ให้เพิ่มพูนขึ้น แต่ไม่มีปัญญาเข้าใจธรรมะ ดังนั้นการแสวงหาของเขาจึงมีทั้งสุจริตและทุจริต คนประเภทนี้ไม่สนใจสั่งสมบุญกุศลเลย นักศึกษาคงเห็นแล้วว่า บุคคลที่ตกอยู่ในความมืดบอดทั้ง 2 ประเภทนี้ ล้วนได้ชื่อว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิบุคคลทั้งสิ้น บุคคล 2 ประเภทนี้มีความเป็นมาอย่างไร บุคคลส่วนใหญ่ในสังคมทุกยุคทุกสมัย ล้วนเป็นทั้งนักวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ครั้นเมื่อโลก มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น ลัทธินิยมทั้ง 2 แบบ ก็ก้าวตามไปเป็นเงาตามตัว นักวัตถุนิยมย่อมมีความคิดว่า สิ่งที่จะอำนวยความสุขให้แก่ชีวิตก็คือความมั่งคั่งร่ำรวย สำหรับใช้เป็น เครื่องแลกเปลี่ยนให้ได้มาซึ่งกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวัตถุนิยมเชื่อว่า การได้ บริโภคกามคุณ 5 ประการนี้ คือ สุดยอดแห่งความสุข แท้ที่จริงวัตถุกาม 5 ประการนี้ เป็นเพียงเครื่องสนองกิเลสกาม คือ ความโลภ ความโกรธ ความ หลง ของนักวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ให้เกิดความรู้สึกเพลิดเพลินในอารมณ์เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น หา ได้บันดาลความสุขที่แท้จริงแก่พวกเขาไม่ เพราะเหตุที่พวกเขาตกอยู่ในความมืดบอดด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีปัญญามองเห็นแสงสว่าง จึงหลงยึดมั่นถือมั่นเอาวัตถุกาม และการบริโภควัตถุกามเป็นสรณะ การ หลงยึดสรณะแบบผิดๆ เช่นนี้ ย่อมนำพวกเขาไปสู่การก่อกรรมชั่ว เพื่อให้ได้วัตถุกามเพิ่มขึ้นมากๆ โดยไม่ อายบาป และไม่กลัววิบากของบาปที่จะเกิดตามมาภายหลัง วิบากของผู้ที่ก่อกรรมชั่วมากๆ ในโลกนี้ คือ การถูกลงโทษทัณฑ์ในอบายภูมิอย่างสาหัส เป็นเวลายาวนานนับด้วยแสน ด้วยล้านปี ตามกฎแห่งกรรมซึ่งเที่ยงธรรมโดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ครั้น พ้นโทษทัณฑ์จากอบายภูมิ ได้โอกาสกลับมาเกิดในมนุษยโลกอีก บางพวกก็อาจจะเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภท “บุคคลตาบอด” บางพวกก็อาจจะเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภท “บุคคลตาเดียว” มิจฉาทิฏฐิชนประเภท บุคคลตาบอด แม้จะไม่ถึงกับมีพิษสงก่อปัญหารุนแรงต่อสังคมก็ตาม แต่ โดยส่วนรวม พวกเขาก็เป็นภาระถ่วงความเจริญก้าวหน้าของครอบครัว และของสังคม และในส่วนตัว 214 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More