ข้อความต้นฉบับในหน้า
กว่าดิรัจฉานมากมาย พฤติกรรมชั่วร้ายของมิจฉาทิฏฐิชน ย่อมก่อความเดือดร้อนวุ่นวายขึ้นในสังคมมนุษย์
ตลอดจนสังคมโลกอย่างยากที่จะหาสันติสุขได้ ดังที่เห็นกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นต้อง
มีการปฏิรูปมนุษย์ ด้วยการปลูกสัมมาทิฏฐิให้เข้าไปอยู่ในใจผู้คนอย่างมั่นคงถาวร เพื่อป้องกันมิให้มิจฉาทิฏฐิ
กําเริบออกฤทธิ์ได้
2 ประเภท คือ
3. มิจฉาทิฏฐิทำให้ผู้คนตกอยู่ในความมืดบอด บุคคลที่ตกอยู่ในความมืดบอดแบ่งออกได้เป็น
3.1 บุคคลตาบอด คือ ไม่มีปัญญาหาทรัพย์ ไม่มีปัญญาเข้าใจธรรมะ และไม่เข้าใจเรื่อง
บาปบุญคุณโทษ
3.2 บุคคลตาเดียว คือ มีปัญญาหาทรัพย์ให้เพิ่มพูนขึ้น แต่ไม่มีปัญญาเข้าใจธรรมะ
ดังนั้นการแสวงหาของเขาจึงมีทั้งสุจริตและทุจริต คนประเภทนี้ไม่สนใจสั่งสมบุญกุศลเลย
นักศึกษาคงเห็นแล้วว่า บุคคลที่ตกอยู่ในความมืดบอดทั้ง 2 ประเภทนี้ ล้วนได้ชื่อว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิบุคคลทั้งสิ้น
บุคคล 2 ประเภทนี้มีความเป็นมาอย่างไร
บุคคลส่วนใหญ่ในสังคมทุกยุคทุกสมัย ล้วนเป็นทั้งนักวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ครั้นเมื่อโลก
มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น ลัทธินิยมทั้ง 2 แบบ ก็ก้าวตามไปเป็นเงาตามตัว
นักวัตถุนิยมย่อมมีความคิดว่า สิ่งที่จะอำนวยความสุขให้แก่ชีวิตก็คือความมั่งคั่งร่ำรวย สำหรับใช้เป็น
เครื่องแลกเปลี่ยนให้ได้มาซึ่งกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวัตถุนิยมเชื่อว่า การได้
บริโภคกามคุณ 5 ประการนี้ คือ สุดยอดแห่งความสุข
แท้ที่จริงวัตถุกาม 5 ประการนี้ เป็นเพียงเครื่องสนองกิเลสกาม คือ ความโลภ ความโกรธ ความ
หลง ของนักวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ให้เกิดความรู้สึกเพลิดเพลินในอารมณ์เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น หา
ได้บันดาลความสุขที่แท้จริงแก่พวกเขาไม่ เพราะเหตุที่พวกเขาตกอยู่ในความมืดบอดด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ
ไม่มีปัญญามองเห็นแสงสว่าง จึงหลงยึดมั่นถือมั่นเอาวัตถุกาม และการบริโภควัตถุกามเป็นสรณะ การ
หลงยึดสรณะแบบผิดๆ เช่นนี้ ย่อมนำพวกเขาไปสู่การก่อกรรมชั่ว เพื่อให้ได้วัตถุกามเพิ่มขึ้นมากๆ โดยไม่
อายบาป และไม่กลัววิบากของบาปที่จะเกิดตามมาภายหลัง
วิบากของผู้ที่ก่อกรรมชั่วมากๆ ในโลกนี้ คือ การถูกลงโทษทัณฑ์ในอบายภูมิอย่างสาหัส
เป็นเวลายาวนานนับด้วยแสน ด้วยล้านปี ตามกฎแห่งกรรมซึ่งเที่ยงธรรมโดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ครั้น
พ้นโทษทัณฑ์จากอบายภูมิ ได้โอกาสกลับมาเกิดในมนุษยโลกอีก บางพวกก็อาจจะเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภท
“บุคคลตาบอด” บางพวกก็อาจจะเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภท “บุคคลตาเดียว”
มิจฉาทิฏฐิชนประเภท บุคคลตาบอด แม้จะไม่ถึงกับมีพิษสงก่อปัญหารุนแรงต่อสังคมก็ตาม แต่
โดยส่วนรวม พวกเขาก็เป็นภาระถ่วงความเจริญก้าวหน้าของครอบครัว และของสังคม และในส่วนตัว
214 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาสังคมโลก