ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ผู้กลัวตาย และไม่กลัวตาย
๕๓
เวลาใกล้ตายจึงเกิดความวิตกกังวลว่าตัวเราเมื่อยังสดใสแข็งแรง
ก็ไม่สนใจศึกษาหลักธรรมให้เข้าใจ
ซึ่งบัดนี้หมดโอกาสเสียแล้ว
ความสงสัยมืดมนในใจยังมีอยู่มาก อีกทั้งความตายก็กำลังจะ
พรากเราไป เมื่อไม่สิ้นความสงสัย ในใจจึงเต็มไปด้วยความ
หวาดหวั่น”
พราหมณ์ทูลถามต่อไปว่า “ผู้ที่ไม่สะดุ้งกลัวต่อความตาย
เป็นอย่างไร” พระบรมศาสดาทรงอธิบายให้ฟังว่า “ใครก็ตาม
เป็นผู้ลดละความมักมากหรือไม่หมกมุ่นในกาม มองเห็นโทษ
ของกามว่า มีต้นหวานแต่ส่วนปลายนั้นขม ถ้าไปยึดมั่นลุ่มหลง
ความทุกข์ก็เพิ่มพูนทับทวี ถึงคราวป่วยหนักใกล้จะตาย จึงไม่มี
ความกังวลในกามคุณเหล่านั้น เมื่อไม่กังวล จึงไม่มีอะไรที่จะ
ต้องไปเศร้าโศกเสียใจ ไม่ทุบอกชกตัว
บางคนมองเห็นสัจธรรมของชีวิตว่า เมื่อเกิดแล้ว ชีวิต
ต้องพบกับความแก่ ความเจ็บ สุดท้ายต้องบ่ายหน้าไปสู่ความตาย
จึงไม่มัวเมาประมาทในร่างกายซึ่งมีปกติเปื่อยเน่า เป็นรังของโรค
เต็มไปด้วยของปฏิกูล แล้วหมั่นสร้างคุณงามความดี และ
ปฏิบัติธรรมให้รู้แจ้งเห็นจริงในชีวิต เวลาใกล้จะตาย ก็จะไม่มี
ความวิตกกังวลถึงสังขารร่างกาย และไม่สะดุ้งกลัวต่อความตาย
แม้แต่นิดเดียว จะไปสู่สัมปรายภพอย่างผู้มีชัยชนะ