ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ (๓)
๒๕๑
เล่าถึงบุพกรรมของตนว่า ได้ทำบุญและบาปอะไรไว้ จึงต้องมา
เสวยสุขและทุกข์ในเวลาเดียวกัน หลังจากเล่าบุพกรรมของตน
แล้ว เปรตทูลต่อไปอีกว่า “ขอเดชะ ขอพระองค์ทรงเชื่อ
ข้าพเจ้าเถิดว่า ผู้มีความเห็นผิด เป็นผู้เศร้าหมองด้วยกาย วาจา
และใจ เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงนรกในสัมปรายภพโดยไม่
ต้องสงสัย ส่วนผู้ที่ปรารถนาสุคติ ยินดียิ่งในการให้ทาน เป็นต้น
เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติในสัมปรายภพแน่นอน”
แม้เปรตจะชี้แจงผลของกรรมเช่นนี้แล้ว พระราชายัง
ไม่ทรงเชื่อง่ายๆ ทรงถามว่า “จะให้เราเชื่อได้อย่างไรว่า นี่คือ
ผลของกรรมดีหรือกรรมชั่ว ใครจะทําให้เราเชื่อในเรื่องนี้ได้
เปรตยืนยันหนักแน่นว่า “ข้าพระองค์นี่แหละ เป็นผู้ที่
พระองค์ควรจะเชื่อถือ เพราะได้ประสบความสุขและทุกข์ด้วย
ตัวเองมาแล้ว ขอพระองค์ทรงเชื่อเถิดว่า ผลแห่งกรรมดีและ
กรรมชั่วเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เพราะผลแห่งกรรมทั้งสองนี้ สัตว์จึง
ไปสู่สุคติและทุคติ ถ้าสัตว์ในโลกนี้ ไม่ทำกรรมดีหรือกรรมชั่วไว้
สัตว์ที่ไปสู่สุคติและทุคติ หรือเป็นสัตว์ประณีตและเลว ก็จักไม่มี
ในมนุษยโลก แต่เพราะสัตว์ทั้งหลายได้ทำกรรมดีและกรรมชั่วไว้
ฉะนั้นจึงไปสู่สุคติบ้าง ทุคติบ้าง เป็นสัตว์เลวบ้าง ประณีตบ้าง
เช่นเดียวกับข้าพระองค์ซึ่งได้ทำกรรมไว้ในชาติก่อน จึงเป็นเหตุ