ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ปัญญา พิชิตปัญหา
๒๕๓
ตั้งแต่เช้า เราตื่นขึ้นมาดูโลก ได้รับแสงสว่างจากดวง
อาทิตย์ ทําให้เราสามารถประกอบกิจการงานต่างๆ ได้อย่าง
สะดวกสบาย กลางคืนเราได้รับแสงสว่างจากดวงจันทร์ หรือ
ดวงไฟ มาขจัดความมืดมิดในยามราตรี ทําให้ท้องฟ้างดงาม
พราวพร่างไปด้วยหมู่ดาวเปล่งแสงระยิบระยับ แสงสว่างเหล่านี้
ให้ประโยชน์มากมายต่อตัวเราและสรรพสัตว์ ในเรื่องของการ
ดำรงชีวิตอยู่ในโลก หากปราศจากแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์หรือดวงไฟแล้ว โลกนี้ก็จะมืดมนอนธการ
ส่วนแสงสว่างแห่งปัญญานั้น เป็นความสว่างของใจ ที่
ทําให้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง
ไม่ผิดเพี้ยน เหมือนที่เราเห็นสิ่งของที่ตั้งอยู่ต่อหน้าเรา ก็รู้ว่า
เป็นสิ่งนั้นๆ ปัญญา คือ แสงสว่างที่ช่วยขจัดความมืดมิด คือ
อวิชชา ที่ครอบงำาจิตใจของเราให้หมดสิ้นไป แสงสว่างแห่ง
ปัญญานี้ จะบังเกิดขึ้นในใจได้ ต้องอาศัยใจที่หยุดนิ่งได้อย่าง
สมบูรณ์ จนเป็นใจที่ได้รับการฝึกฝนมาดีแล้ว จึงจะช่วยเหลือ
ตนเองและผู้อื่น ให้พ้นจากความหลงผิด กลายเป็นผู้เข้าใจโลก
และชีวิตได้อย่างถูกต้อง เหมือนอย่างโพธิกุมาร ผู้อาศัยมหา
ปัญญาช่วยเหลือพระราชา ให้ปกครองประเทศชาติได้อย่าง
ร่มเย็นเป็นสุข