ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
ครุกรรม (๑)
๑๑
ของตน เหมือนบุคคลที่ถูกไฟไหม้แล้วฉะนั้น”
คนพาลคือคนที่มีดวงปัญญามืดบอด มีชีวิตอยู่สักแต่ว่า
มีลมหายใจเข้าออกเท่านั้นไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างคุ้มค่า ส่วนบัณฑิต
ผู้มีปัญญาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนที่ศึกษาเล่าเรียนจนจบปริญญา
ในสาขาต่างๆ มีความรู้แตกฉาน แต่ผู้มีปัญญาในที่นี้ หมายถึง
ผู้มีศรัทธาตั้งมั่นในพระรัตนตรัย มีความเลื่อมใสไม่คลอนแคลน
เป็นสัมมาทิฏฐิ รู้บาปบุญคุณโทษ และรู้จักดำเนินชีวิตได้อย่าง
ถูกต้องด้วยการสร้างบารมี เหมือนพระบรมโพธิสัตว์ ที่ท่านลง
มาเกิดเพื่อสร้างบารมี อันที่จริงเราทุกคนและชาวโลกทั้งหลาย
ล้วนเกิดมาสร้างบารมีอย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้เกิดมาเพื่ออย่างอื่น
อย่างที่ผู้ไม่รู้ทั้งหลายเข้าใจกัน สำหรับผู้รู้หรือผู้ที่เป็นสาวกของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องเดินตามรอยเท้าของท่าน ท่าน
ก้าวซ้ายเราก้าวซ้าย ท่านก้าวขวาเราก้าวขวา โดยไม่มีแม้เพียง
ความคิดที่จะเดินออกนอกลู่นอกทาง
ส่วนคนพาลนั้นถูกอวิชชาบดบังดวงปัญญาจนกระทั่ง
ดวงปัญญาของตนมืดสนิท ทำให้ไม่รักบุญ ไม่กลัวบาป คิด พูด
ทําในเรื่องที่เป็นบาปอกุศล ทำให้ชีวิตพบกับความมืดมนอนธการ
มากขึ้นทุกวัน ความมืดภายนอกยังมีวันสว่างได้ แต่ความมืดใน
ดวงใจที่ไม่ได้รับรสแห่งพระสัทธรรมนั้นไม่มีวันสว่างได้เลย เป็น
ความมืดที่น่าสะพรึงกลัว เพราะจะทำให้พลัดตกไปในอบายภูมิ