ข้อความต้นฉบับในหน้า
เส้นทางจอมปราชญ์ (๔)
๔๗๔
เมื่อพระราชาพูดจบ พระเถระท่านไม่อยากจะโต้ตอบกับ
พระราชาอีก จึงนั่งนิ่งๆ ไม่ตอบอะไร พระราชาก็เลยตบมือ
เยาะเย้ย ประกาศทันทีว่า “ดูก่อนชาวประชาทั้งหลาย เราคิดว่า
ชมพูทวีปนี้ ไม่มีใครมีปัญญาที่จะเรียนรู้ธรรมะของพระพุทธองค์
หรือสามารถที่จะแก้ข้อสงสัยของเราได้” จริงๆ แล้วปัญหาที่
พระยามิลินท์ถามนั้น ไม่ใช่พระเถระตอบไม่ได้ แต่ท่านไม่อยาก
จะให้พระราชาได้บาป จึงนิ่งเสีย เพราะการไม่แก้ปัญหาไม่ถือว่า
เสื่อมเสียอะไร ฝ่ายพระราชาเจ้าปัญญา ก็คิดที่จะถามปัญหา
กับพระภิกษุรูปอื่นๆ อีก จึงตรัสถามพวกข้าราชบริพารว่า “ยัง
มีพระภิกษุรูปใดที่มีปัญญาอีกบ้าง”
อำมาตย์คนหนึ่ง ได้ยินเขาเล่าลือถึงความเก่งกาจของ
พระนาคเสนว่า เป็นผู้แตกฉานในพระธรรมวินัยยิ่งนัก จึง
กราบทูลพระราชาว่า “บัดนี้ ยังมีพระภิกษุหนุ่มอยู่รูปหนึ่ง
พระเจ้าข้า ท่านแตกฉานในพระไตรปิฎก มีนามว่า พระนาคเสน”
เพียงได้สดับคำว่า นาคเสนเท่านั้น พระราชาถึงกับเกิดอาการ
ขนพองสยองเกล้า กลัวฤทธิ์เดชของท่าน แต่ด้วยความที่จิตใจ
เป็นผู้ใฝ่รู้ใคร่ศึกษา อยากจะสนทนาธรรมกับบัณฑิต จึงสั่ง
อำมาตย์ว่า “อย่าช้าเลย พวกเจ้าทั้งหลายจงไปนิมนต์ท่าน
ให้เข้ามาในราชฐานทีเถิด” ราชวัลลภก็กระวีกระวาดไป
อาราธนาพระนาคเสนมา