ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรll
เส้นทางจอมปราชญ์ (๒)
៤៥៦
เมื่อพระเถระได้ฟังถ้อยคำเท่านี้ ก็สะพายบาตรเปล่า
เดินจากสถานที่นั้น เดินสวนทางกับพราหมณ์ พราหมณ์ก็ถาม
พระเถระว่า “ท่านได้อะไรมาบ้าง” ท่านตอบว่า “ได้สิพราหมณ์
เราได้หน่อยเดียวเท่านั้น” พราหมณ์ไม่ศรัทธาอยู่แล้วจึงเกิด
ความฉุนเฉียว กลับไปถามคนในบ้านว่ามีใครให้ของไปหรือเปล่า
ทุกๆ คนตอบเหมือนกันว่า ไม่มีใครให้ พ่อของนาคเสนกุมาร
ยิ่งหมดศรัทธา หาว่าพระโกหก จึงคิดจะต่อว่าท่านในวันรุ่งขึ้น
ครั้นรุ่งขึ้นอีกวัน พระเถระเดินมาบิณฑบาตหน้าบ้าน
พราหมณ์เหมือนเดิม พราหมณ์รออยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปต่อว่า
ทันทีว่า “ท่านทำไมโกหกอย่างนี้ เมื่อวานไม่มีใครสักคนใส่บาตร
ท่านเลย แล้วยังมีหน้าว่าได้หน่อยหนึ่ง” พระเถระท่านก็นิ่งๆ แล้ว
เอ่ยวาจาตอบพราหมณ์ว่า “ท่านพราหมณ์ อาตมามาบิณฑบาต
ที่นี่ถึง ๗ ปี กับ ๑๐ เดือน จังหันสักทัพพีหนึ่งก็ไม่เคยได้เลย
คําพูดแม้สักคำก็ยังไม่เคยได้ ท่านเห็นเราเข้าก็ทำหน้าบึ้งตึง
ด่าว่าเสียดสี แต่เมื่อวานนี้พราหมณีพูดกับเราว่า “จงหลีกไปเถิด”
อาตมาได้ฟังถ้อยคำๆ นี้ของนาง จึงได้พูดกับท่านเมื่อวานนี้ว่า
ได้หน่อยหนึ่ง อาตมาจะกล่าวมุสาได้อย่างไร”
พราหมณ์ได้ฟังดังนั้นจึงเกิดความเลื่อมใสว่า สมณะรูปนี้
แม้ได้ฟังถ้อยคําเท่านี้ยังดีใจ หากได้มากกว่านี้ คงจะสรรเสริญ
มากกว่านี้ จึงร้องเรียกให้ภรรยาเอาของมาใส่บาตร ยิ่งพอใกล้ชิด