ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
เส้นทางจอมปราชญ์ (๓)
๔๖๓
นุ่งห่มอย่างนี้ นาคเสนกุมารถามต่อว่า บรรพชิตที่ท่านว่านั้น
แปลว่าอย่างไร พระเถระวิสัชนาต่อว่า บรรพชิต แปลว่า ผู้เว้น
จากบาปอกุศลทุกๆ อย่าง และพระเถระยังกล่าวต่อไปอีกว่า
ศิลปศาสตร์ที่เรารู้อยู่นี้ เป็นความรู้ที่เหนือกว่าความรู้ใดๆ ทุก
อย่างในโลก ความรู้ในโลกเป็นความรู้ที่มีทุกข์เจือปน ไม่เที่ยง
แท้ถาวร แต่ความรู้ของเรานั้นทั้งละเอียดลึกล้ำ เลิศกว่าศิลป
ศาสตร์ทั้งปวง
นาคเสนกุมารแค่อายุ ๗ ขวบ แม้อายุจะน้อยแต่
ภูมิปัญญานั้นสูงส่งมาก อยากจะศึกษาศิลปะจากพระเถระ
แต่ขอถามปัญหาพระเถระดูก่อนว่า จะแก้ปัญหาของตนเองได้
หรือไม่ ถ้าแก้ได้ก็จะเรียน นาคเสนกุมารถามว่า “ทำไมผมก็ดี
หนวดก็ดีของท่าน ไม่เหมือนผู้คนทั้งหลาย ท่านเห็นคุณ และโทษ
ประการใด จึงโกนผม และหนวดเสีย” เด็ก ๗ ขวบ ดูเหมือน
ถามปัญหาธรรมดาๆ แต่เป็นปัญหาที่หลายคนอาจจะสงสัย
เหมือนกัน พระเถระท่านตอบว่า “ที่อาตมาทำอย่างนี้ เพราะ
ต้องการจะตัดความกังวล ๑๖ ประการ ที่จะคอยเหนี่ยวรั้งไม่ให้
จิตใจสุขสงบ ๑๖ ประการที่ว่าก็คือ ความกังวลเกี่ยวกับอาภรณ์
ผ้านุ่งผ้าห่ม เครื่องประดับทั้งหลาย การแต่งเนื้อแต่งตัว เวลามี
เสื้อผ้า ก็ต้องมีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกมาก เกี่ยวกับการขัดสีชำระ
ล้างที่จะต้องคอยทำความสะอาด ถ้าไม่ทำก็สกปรก ความกังวล