ข้อความต้นฉบับในหน้า
เส้นทางจอมปราชญ์ (๕)
៤៨៤
เสนจึงแก้ว่า “มหาบพิตร อาตมาก็เหมือนกัน ที่บอกว่าชื่อ
นาคเสน ก็ไม่ได้มุสา อาศัยอาการ ๓๒ ของอาตมาประกอบ
กันเข้า จึงมีบัญญัตินามปรากฏว่า นาคเสน”
พระเจ้ามิลินท์ได้ฟังดังนั้น รู้สึกทึ่งในไหวพริบปฏิภาณ
ของพระนาคเสน ถึงกับเอ่ยอุทานว่า “พระคุณเจ้าองค์นี้ช่างแก้
ปัญหาได้น่าอัศจรรย์” แต่อยากจะถามอีกสักอย่างว่า “มหาชน
ทั้งหลาย ต่างตั้งใจกระทำกุศลทั้งกาย วาจา ใจ หรือกระทำ
บาปอกุศลทางกาย วาจา ใจนั้น ผลกรรมไปอยู่ที่ไหน” พระ
นาคเสนอธิบายว่า “มหาบพิตร ขอถวายพระพร บุคคลกระทำ
บุญกุศล ประพฤติสุจริตทั้งกาย วาจา ใจ หรือจะทำบาปอกุศล
ทางกาย วาจา ใจ บุญบาปนั้นจะได้ตั้งอยู่ในที่ไหนหามิได้ กรรมนั้น
จะติดตามไปเหมือนเงาติดตามตัว ฉะนั้นจะกระทำกรรมดีหรือ
กรรมชั่ว กรรมนั้นก็ติดตามตัวผู้นั้นไปตลอด”
คำว่า “ติดตามตัวเราไป” เป็นคำลึกซึ้ง ถ้าเราได้ศึกษา
วิชชาธรรมกาย เข้าไปรู้ไปเห็นเรื่องบุญเรื่องบาปเหล่านี้ จะเข้าใจ
แจ่มแจ้งชัดเจนกับคํา พระนาคเสนกล่าว กรรมดีกรรมชั่ว
ที่เราทำไปนั้น จะเป็นดวงบุญดวงบาป ติดอยู่ในศูนย์กลางกาย
ของผู้นั้นไปตลอดทุกกายเลย เหมือนเงาที่ติดตัวไปอย่างนั้นแหละ
แต่พระนาคเสนกล่าวแก้ปัญหาเท่าที่ปัญญาของพระยามิลินท์
เข้าใจได้