ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsual
สมปรารถนาได้ด้วยบุญ
๓๑๘
มาลงที่ประตูพระราชวัง พระราชาพร้อมกับพระเทวีทรงเสด็จ
มานมัสการแล้วรับบาตร
นิมนต์ให้ท่านฉันภัตตาหารที่ประณีต
เมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว พระปัจเจกพุทธเจ้าได้กล่าวสัมโมทนียกถา
ให้ฟังว่า “เมื่อเรือนถูกไฟไหม้แล้ว เจ้าของเรือนขนเอาภาชนะ
ใดออกไปได้ ภาชนะนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เขา ส่วนสิ่งของที่
มิได้ขนออกไป ย่อมไหม้ในกองเพลิงนั้น ฉันใด โลกคือหมู่สัตว์
อันชรา และมรณะแผดเผาแล้ว ก็ฉันนั้น ควรนำโภคทรัพย์ออก
ด้วยการให้ วัตถุที่ให้แล้วได้ชื่อว่านำออกดีแล้ว ทานวัตถุที่ให้
แล้วนั้น ย่อมมีสุขเป็นผล ส่วนที่ยังมิได้ให้ บางครั้งโจรยังปล้น
เอาไปได้ พระราชายังริบได้ ถูกไฟไหม้บ้างหรือสูญหายไปบ้าง
อนึ่ง บุคคลจำต้องละร่างกายพร้อมทั้งสิ่งของนั้น ผู้มี
ปัญญารู้ชัดดังนี้แล้ว ควรใช้สอย และให้ทานเถิด เมื่อได้ให้ทาน
และใช้สอยตามควรแล้ว จะไม่ถูกติฉินนินทา ละโลกไปแล้ว
ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์”
พระราชาได้สดับพระธรรมกถานั้นแล้ว ทรงมีพระทัย
เบิกบาน จึงทุ่มเททำบุญจนตลอดชีวิต ไม่เคยขาดการให้ทาน
เลยแม้แต่วันเดียว ทรงประกอบแต่กุศลกรรม และมีสุคติภูมิ
เป็นทีไปในภพเบื้องหน้า
จากตัวอย่างข้างต้นนี้ ทำให้ได้ข้อคิดว่า เราจำเป็นต้อง