ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
เส้นทางจอมปราชญ์ (๗)
๕๐๓
พระนาคเสนได้ฟังแล้วท่านก็นิ่งสักครู่ แล้วจึงวิสัชนา
แก่พระราชาด้วยภูมิธรรมที่ลึกซึ้งว่า “มหาบพิตร สัตว์และ
มนุษย์ทั้งหลายที่ยังไม่แก่ไม่เฒ่ามาตายเสียก่อนได้ชื่อว่าตาย
เป็นอกาลมรณะ พวกที่ตายเป็นอกาลมรณะนั้นมี ๗ จําพวก คือ
๑.บุคคลผู้ที่ไม่สิ้นอายุอดอาหารตาย ๒.อดน้ำตาย ๓.ถูก
งูพิษกล้าขบกัดตาย ๔.กินยาพิษฆ่าตัวตาย ๕.ถูกไฟไหม้ตาย
5.ตกน้ำตาย และ ๗.ตายด้วยศาสตราวุธ มนุษย์จำพวกนี้
ชื่อว่าตายเป็นอกาลมรณะ มหาบพิตร
ส่วนมนุษย์ทั้งหลายที่ตายเป็นกาลมรณะนั้นมีถึง 4
ประการด้วยกัน ขอให้มหาบพิตรจงจำไว้ให้ดี คือ ๑.ตายด้วย
โรคลม ๒.ตายด้วยโรคที่เกิดจากดีหรือโรคดีกำเริบ ๓.ตายด้วย
โรคมีเสมหะกำเริบ ๔.ตายด้วยพิษไข้ ๕.ตายด้วยโรคที่เกิดตาม
ฤดูทั้งสาม 5.ตายด้วยการใช้อิริยาบถทั้งสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน
เกินประมาณ ๗.ตายด้วยโรคเลือดไหลรักษาเท่าไรก็ไม่หยุด
และประการสุดท้าย ๔.ตายด้วยโรคอันเกิดแต่กรรมวิบาก
มนุษย์ทั้งหลายที่ตายด้วยเหตุ ๔ ประการนี้ ชื่อว่าตายเป็น
กาลมรณะ ขอพระองค์ทรงจำไว้ด้วยเถิดมหาบพิตร”
พระเถระอธิบายต่อว่า กาลมรณะนั้นยังแบ่งออกเป็น ๒
อย่างคือ เป็นสามายิกากาลกิริยา และอสามายิกากาลกิริยา