ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ไม่มีอะไรสายเกินไป
๓๔๗
เมื่อนายตัม ทาฐิกะเห็นพระเถระเท่านั้น เขาก็มีจิตเลื่อมใส
คิดว่า “เราได้ทำบาปกรรมมานาน ฆ่ามนุษย์มามากมาย วันนี้
ไทยธรรมเราก็พร้อมแล้ว พระเถระก็มายืนอยู่ที่ประตูเรือนของ
เราแล้ว เราควรถวายทานในเวลานี้” เขาจึงได้น้อมภัตตาหาร
เข้าไปถวายพระเถระ แล้วนิมนต์ให้ท่านฉันภัตตาหารในเรือน
ของตน
เมื่อพระเถระทำภัตกิจเสร็จแล้วได้กล่าวอนุโมทนาแก่เขา
แต่เขาไม่อาจทำจิตไปตามพระธรรมเทศนาได้ เพราะมัวกังวลว่า
ตนเองได้ทําบาปอกุศลกรรมมามาก ใจที่กังวลหมกมุ่นถึง
เรื่องราวในอดีตนั้น เป็นสภาพใจที่ไม่พร้อมจะฟังธรรมปฏิบัติธรรม
หรือเข้าถึงธรรม พระสารีบุตรจึงได้ถามขึ้นว่า “อุบาสก ท่านได้
ฆ่าคนตามใจชอบ หรือว่าถูกคนอื่นสั่งให้ทำเล่า” เขาตอบด้วย
ความชื่อว่า “พระราชาสั่งให้ข้าพเจ้าทำ” พระเถระจึงบอกว่า
“อุบาสก เมื่อเป็นเช่นนั้น อกุศลจะมีแก่ท่านได้อย่างไร” เขาจึง
คิดว่า “อกุศลไม่มีแก่เรา”
เมื่อปลอดจากเครื่องกังวลทั้งหลาย ใจก็มีสภาพเป็น
กลางๆ ไม่ไปยึดติดในบาปอกุศลที่เคยฆ่าคนเอาไว้ ใจจึงมี
ความผ่องใส ได้ตั้งใจฟังธรรมจากพระสารีบุตรด้วยใจที่จดจ่อ
น้อมใจไปตามคําสอนของพระเถระ มีอารมณ์เป็นหนึ่ง ได้
คําเนินจิตเข้าสู่ภายในเป็นลำดับ จนเข้าถึงโสดาปัตติมรรค ถึง