ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
เราชนะแล้ว
១០៩
ครั้นมัชฌิมยาม พราหมณ์ก็ยังไม่สามารถตัดใจถวายได้
จนล่วงมาถึงปัจฉิมยาม บุญเก่าได้กระตุ้นเตือนให้เขาคิดว่า
“ถ้าหากเราไม่สามารถกำจัดความตระหนี่ออกจากใจได้ เราจะ
พ้นจากความทุกข์อันแสนสาหัสนี้ได้อย่างไร” เมื่อคิดได้ดังนี้
จึงติดใจทันที เขาเข้าไปถวายผ้าแด่พระบรมศาสดา เมื่อคิด
จะให้ กระแสบุญก็เกิดขึ้นแล้วในกลางกาย เมื่อตัดใจให้ได้
บุญก็กำจัดความตระหนี่ให้หลุดร่อนออกไป ใจของพราหมณ์
ได้ขยายกว้างออกไปอย่างไม่มีประมาณ เต็มเปี่ยมไปด้วย
ความสุขความเบิกบาน ไม่อาจจะเก็บความปีตินี้ไว้ในใจเพียง
คนเดียว จึงได้กล่าวถ้อยคำอันเป็นมงคล ดังก้องไปทั่วธรรมสภา
ว่า “ชิตัง เม ชิตัง เม ชิตัง เม” แปลว่า เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว
เราชนะแล้ว
พระเจ้าปเสนทิโกศลฟังธรรมอยู่ในที่นั้นด้วย ได้สดับ
เสียงพราหมณ์ จึงตรัสถามราชบุรุษว่า “ท่านจงถามพราหมณ์
ผู้นั้นดูว่า เขาชนะอะไร” เมื่อราชบุรุษไปถาม ก็ได้รับคำตอบว่า
“เราชนะใจตนเองแล้ว เพราะได้พยายามตัดใจถวายทานถึง
๓ ครั้ง และในครั้งสุดท้ายนี้เราสามารถเอาชนะความตระหนี้ได้”
เมื่อพระราชาทราบความเช่นนั้นแล้วทรงดำริว่า “พราหมณ์ผู้นี้
ทำสิ่งที่บุคคลทั้งหลายทำได้โดยยาก” จึงเกิดความเลื่อมใส
กระแสบุญจากใจของพราหมณ์แผ่ขยายไปสู่ใจของพระราชา